ในปี พ.ศ. 2559 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ออกประกาศ เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข ฉบับที่ 10 โดยรายการหรือกิจกรรมบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีขอบเขตครอบคลุมการตรวจคัดกรอง การสร้างเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การให้คำปรึกษาแนะนำ การให้ความรู้ การสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน การใช้ยา และการทำหัตถการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค มาตรการด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสามารถจำแนกออกเป็น 5 กลุ่ม ตามผู้มีสิทธิได้รับบริการ ได้แก่ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็กเล็กอายุ 0-5 ปี กลุ่มเด็กโตและวัยรุ่นอายุ 6-24 ปี กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 25-59 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในปี พ.ศ. 2560 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ออกประกาศฯ ฉบับที่ 11 โดยเพิ่มมาตรการด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่มีลักษณะเป็นรายโครงการเข้าสู่ขอบเขตของบริการ ซึ่งมีบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงเป็นมาตรการด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรครายการแรกที่มีลักษณะเป็นรายโครงการ
แม้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะพยายามกำหนดมาตรการด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคไว้ในประกาศฯ ฉบับ 10 และฉบับที่ 11 แต่ข้อจำกัดของการเพิ่มมาตรการด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเข้าเป็นสิทธิประโยชน์ใหม่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น กระบวนการหรือเกณฑ์การคัดเลือกกิจกรรมบริการสร้างเสริมสุขภาพหรือป้องกันโรคที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นกระบวนการหรือเกณฑ์เดียวกับที่ใช้ในการคัดเลือกมาตรการด้านการรักษาพยาบาลเป็นสิทธิประโยชน์ โดยกระบวนการและเกณฑ์ดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมกับมาตรการด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ทั้งนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงมอบหมายให้โครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ศึกษาเพื่อพัฒนากระบวนการและข้อเสนอเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผ่านการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เชี่ยวชาญตลอดทั้งกระบวนการ