MIDAS Medical Innovation Hackathon 2025: จุดเปลี่ยนจาก “งานวิจัยขึ้นหิ้ง” สู่ “นวัตกรรมเพื่อระบบสาธารณสุขไทยที่ยั่งยืน”

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัด “งานประชุมวิชาการ การประเมินสร้างเสริมสุขภาพเชิงเศรษฐศาสตร์ในประเทศไทยและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายวิชาการการประเมินงานสร้างเสริมสุขภาพเชิงเศรษฐศาสตร์” ผลักดันความสำคัญของการวิจัยประเมินงานสร้างเสริมสุขภาพโดยมี 12 หน่วยงานร่วมลงนาม
ดร. สุปรีดา อดุลยนนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวเปิดงานโดยเผยถึงสถานการณ์การดำเนินงานด้านสาธารณสุขจากอดีตสู่ปัจจุบันที่แนวโน้มเปลี่ยนจากมุ่งเน้นการรักษามาให้ความสำคัญกับการทำงานด้าน “การสร้างเสริมสุขภาพ” หรือ Health Promotion มากขึ้น เพื่อให้ทันกับการรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรม แต่เนื่องจากคนทั่วไปในสังคมอาจมองเห็นผลจากงานสร้างเสริมสุขภาพได้ยาก การประเมินเชิงเศรษฐศาสตร์งานสร้างเสริมสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญหนึ่งที่จะช่วยให้สังคมเห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของงานด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรมขึ้น
ทางด้าน ศ. ดร. ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางแผนงานการประเมินงานสร้างเสริมสุขภาพเชิงเศรษฐศาสตร์ในประเทศไทย สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่าในภาพรวม แผนงานการประเมินงานสร้างเสริมสุขภาพเชิงเศรษฐศาสตร์ ถือเป็นงานที่ยากและซับซ้อนทั้งในแง่ของการหาข้อมูลและการเลือกหยิบข้อมูลตัวแปรต่าง ๆ มาใช้เพื่อวัดผลของนโยบายที่มีต่อสังคม ถือเป็นความท้าทายของวงวิชาการ และต้องอาศัยความร่วมมือเป็นเครือข่ายจึงจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ในระดับนโยบาย
โดยในพิธีลงนาม ดร. ภญ. พัทธรา ลีฬหวรงค์ หัวหน้าโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) เป็นตัวแทนมูลนิธิเพื่อการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายวิชาการการประเมินงานสร้างเสริมสุขภาพเชิงเศรษฐศาสตร์ร่วมกับอีก 11 หน่วยงาน ได้แก่ กรมควบคุมโรค, กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, วิทยาลัยจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยและสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข