“MIDAS Medical Innovation Hackathon 2025” เวทีขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการแพทย์ สู่สิทธิประโยชน์ของคนไทย

นักวิจัย HITAP นำเสนอผลการศึกษาวิจัย การประเมินต้นทุนอรรถประโยชน์ของยา Bortezomib Thalidomide และ Lenalidomide ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวชนิดมัยอีโลมาที่กลับเป็นซ้ำหรือดื้อต่อการรักษา โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันอภิปรายและให้ข้อเสนอแนะต่อโครงการวิจัย
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 HITAP จัดประชุมผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาโครงร่างวิจัยการประเมินต้นทุนอรรถประโยชน์ของยา Bortezomib Thalidomide และ Lenalidomide ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวชนิดมัยอีโลมาที่กลับเป็นซ้ำหรือดื้อต่อการรักษา โดยมีนายวิทธวัช พันธุมงคล นักวิจัยของโครงการฯ เป็นผู้นำเสนอความเป็นมาของการศึกษา วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการดำเนินงาน และผลการศึกษาการประเมินต้นทุนอรรถประโยชน์ของยา Bortezomib Thalidomide และ Lenalidomide ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวชนิดมัยอีโลมาที่กลับเป็นซ้ำหรือดื้อต่อการรักษา
โรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวชนิดมัยอีโลมาเป็นโรคมะเร็งทางโลหิตวิทยาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยพบได้ร้อยละ 1 ของมะเร็งทั้งหมดและพบเป็นร้อยละ 10 ของโรคมะเร็งโลหิตวิทยา ในประเทศไทยจะมีผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาหรือมีภาวะกลับเป็นซ้ำหรือดื้อต่อการรักษาคิดเป็น 197 คนต่อปี สำหรับยาที่ใช้ในการรักษามีสูตรการรักษาที่หลากหลาย ปัจจุบันในประเทศไทยมีการบรรจุยา โดยเป็นยากลุ่มดั้งเดิม ได้แก่ Dexamethasone อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว แต่ยากลุ่มใหม่ (Novel agent) ได้แก่ Bortezomib Thalidomide และ Lenalidomide ซึ่งมีประสิทธิผลมากขึ้นในขณะนี้ยังไม่ถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ จึงมีความต้องการข้อมูลด้านความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของยา Bortezomib Thalidomide และ Lenalidomide เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาบรรจุยาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ จึงทำโครงการวิจัยดังกล่าวเพื่อประเมินต้นทุนอรรถประโยชน์และประเมินภาระงบประมาณของการใช้ยา Bortezomib Thalidomide และ Lenalidomide ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดโลหิตขาวชนิดมัยอีโลมาที่กลับเป็นซ้ำหรือดื้อต่อการรักษา
ผลการศึกษาพบว่าการรักษาผู้ป่วยด้วยสูตรยา 3 ทางเลือกยังไม่มีความคุ้มค่าในบริบทของประเทศไทยเมื่อเทียบกับการรักษาด้วย high-dose dexamethasone การรักษาด้วยสูตรยา Bortezomib Thalidomide และ Lenalidomide จะมีความคุ้มค่าเมื่อราคายาลดลงร้อยละ 99 ร้อยละ 92 และร้อยละ 98 ตามลำดับ และการรักษาด้วยสูตรยา Bortezomib และ Lenalidomide ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจาก high-dose dexamethasone ประมาณ 157 ล้านบาท และ 394 ล้านบาท ตามลำดับ โดยภายหลังจากการนำเสนอผลการศึกษาผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมกันอภิปรายผลการศึกษาและให้ข้อเสนอแนะต่อโครงการวิจัยดังกล่าว และคาดว่าผลการศึกษาที่ได้จะสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hitap.net/research/168378