logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

     นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการศึกษาด้าน “เภสัชพันธุศาสตร์” เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นการจัดยาตามลักษณะพันธุกรรมจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับยาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง แต่ผลข้างเคียงจากการใช้ยาน้อย ซึ่งขณะนี้กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเวชปฏิบัติแล้ว ทั้งนี้ การศึกษาวิจัยเรื่องพันธุศาสตร์มีมานานแล้วในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่ไม่อาจนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้กับคนไทยโดยตรงได้ เนื่องจากลักษณะพันธุกรรมแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาลักษณะพันธุกรรมของคนไทย และพัฒนาเครือข่ายการวิจัยทางด้านเภสัชพันธุศาสตร์เอง เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดผื่นแพ้ยาและผลข้างเคียงอื่นๆ ของยาที่พบได้บ่อยในไทย แล้วนำไปประยุกต์ในการให้บริการ การตรวจหาลักษณะพันธุกรรมในยีนที่มีความสำคัญทางคลินิก
       
       นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า ข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำรวจพบปัญหาผื่นแพ้รุนแรงจากการแพ้ยาชนิดที่มีการหลุดลอกของผิวหนัง (Stevens-Johnson Syndrome / Toxic Epidermal Necrolysis) ในไทยสูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ทำให้การศึกษาวิจัยทางเภสัชพันธุศาสตร์เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ กรมวิทย์จึงมีโครงการความร่วมมือกับ Center for Integrative Medical Sciences สถาบัน RIKEN ประเทศญี่ปุ่น โดยได้ดำเนินการร่วมวิจัยตั้งแต่ปี 2549 โดยความร่วมมือในระยะที่ 3 นี้จะไปสิ้นสุด ในปี 2561 เพื่อสนับสนุนนักวิจัยไทยทั้งภายในกรมวิทย์และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในการทำวิจัยเภสัชพันธุศาสตร์
       
       นพ.อภิชัย กล่าวด้วยว่า การวิจัยและการให้บริการทางเภสัชพันธุศาสตร์ จำเป็นต้องมีการดำเนินการในรูปแบบเครือข่ายที่ประสานกันระหว่างโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วย ศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย. และนักวิจัยจากสถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ดังนั้น กรมวิทย์ กระทรวงสาธารณสุข และมหาวิทยาลัยต่างๆ จึงได้มีนโยบายสนับสนุนการดำเนินงานโครงการพัฒนาเครือข่ายการศึกษาทางเภสัชพันธุศาสตร์เพื่อการลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ โดยการใช้ยาเฉพาะบุคคลระยะที่ 2 ในปีงบประมาณ 2557-2559 ได้จัดให้มีการประชุมการพัฒนาเครือข่ายการศึกษาทางเภสัชพันธุศาสตร์ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อสรุปผลการดำเนินการโครงการระยะที่ 1
       
       “การดำเนินโครงการระยะที่ 1 พบปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมสำหรับผู้ป่วยที่แพ้ยาต้านจุลชีพ Cotrimoxazole ยากันชัก Phenobarbital และอธิบายแนวทางการพัฒนาเทคนิควิธีการตรวจยีนเสี่ยงที่ได้จากผลจากการศึกษา ให้มีวิธีการตรวจที่เหมาะสมกับระดับความสามารถของห้องปฏิบัติการในประเทศไทย เพื่อนำผลการวิจัยมาใช้ในการดูแลผู้ป่วย ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” อธิบดีกรมวิทย์ กล่าว

18 กุมภาพันธ์ 2557

Next post > อย.เพิ่งเอาจริง ยกเครื่อง “ร้านยา” เริ่ม 25 มิ.ย.จ่อคุมจ่ายยาอันตราย

< Previous post ห่วงวัยรุ่นส่งภาพหวิวผ่านไลน์ กระตุ้นความอยากลองเรื่องเซ็กส์

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด