logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

     จักษุแพทย์เตือนหน้าหนาว ป่วยอาการตาแห้งมาก ชี้ข้อสังเกตตาไม่มีแวว กะพริบตาบ่อยครั้ง ควรประคบเย็นที่ดวงตา พร้อมแนะ 4 วิธีเลี่ยงอาการตาแห้ง

นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยเข้ามารักษาอาการตาแห้งเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ซึ่งอาการตาแห้งเกิดจากสภาพแวดล้อมที่แห้ง โดยข้อบ่งชี้ของผู้มีอาการตาแห้ง ได้แก่ 1.จะมีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณดวงตา 2.ตาแดง 3.น้ำตาไหล 4.กะพริบตาบ่อย และ 5.ตาฝ้าฟาง โดยกลุ่มที่พบบ่อยมากที่สุด คือ ผู้สูงอายุ คนที่ใส่คอนแทกต์เลนส์ เด็กและผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เป็นต้น ทั้งนี้ คนไข้ที่มารับการรักษาส่วนใหญ่จะมาด้วยอาการมองแดดแล้วรู้สึกแสบตา จนทำให้เกิดความวิตกกังวล และบางรายก็มีอาการวิตกจริตร่วมด้วย เพราะกังวลว่าจะเป็นโรคที่มีผลกระทบกับดวงตาจนเกิดอันตรายกับดวงตา

       
       นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวอีกว่า อาการตาแห้งไม่ได้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อดวงตามากนัก แต่อาการตาแห้งจะสร้างความรำคาญมากกว่า ท้งนี้ ประชาชนสามารถสังเกตอาการตาแห้งได้จากดวงตาไม่มีแวว และมีการกะพริบตาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการแก้ปัญหาสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยการประคบเย็นบริเวณดวงตา คือนำผ้าไปแช่ในตู้เย็น หรือชุบน้ำเย็นมาวางทาบโดยไม่ต้องกด ขยี้ หรือคลึง ซึ่งการวางผ้านั้นให้วางตั้งแต่ขมับซ้ายมาขมับขวาทาบทับหน้าผาก ตา และจมูก จนกว่าผ้าจะแห้ง หลังจากนั้นก็ให้นำผ้ามาชุบน้ำเย็นต่อ ซึ่งต้องทำติดต่อกันประมาณ 20 นาที และทำวันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้อาการดีขึ้น
       
       “หากประคบเย็นแล้วยังไม่หาย ผู้ป่วยควรรีบไปพบจักษุแพทย์ทันที เพื่อป้องกันอาการที่รุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อน โดยจักษุแพทย์มักจะให้น้ำตาเทียมหรือยาหยอดตาในการรักษา นอกจากนี้ สำหรับการดูแลดวงตาไม่ให้มีอาการตาแห้งในช่วงหน้าหนาว สามารถทำได้ด้วย 4 วิธี คือ 1.หลีกเลี่ยงการออกแดด 2.สวมแว่นกันแดดหรือหมวกทุกครั้งที่ออกแดด 3.ดื่มน้ำก่อนออกจากบ้านทุกครั้งเพื่อทำให้ตาชุ่มฉ่ำ และเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำเวลาอยู่นอกบ้าน และ 4.รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น ผักสีเขียว ผักบุ้ง มะละกอ และแครอท เนื่องจากในกลุ่มเด็กนั้นมีอาการตาแห้งเกิดจากการไม่ได้รับประทานผักและผลไม้” จักษุแพทย์ กล่าว

9 ธันวาคม 2556

Next post > กรมวิทย์การันตี “เครื่องตรวจแอลกอฮอล์” ช่วงปีใหม่ เป๊ะเวอร์!!

< Previous post อึ้ง! ซิฟิลิสจ่อระบาด พบ 2-3 ปีกลุ่มชายรักชายติดโรคสูง

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด