MIDAS Medical Innovation Hackathon 2025: จุดเปลี่ยนจาก “งานวิจัยขึ้นหิ้ง” สู่ “นวัตกรรมเพื่อระบบสาธารณสุขไทยที่ยั่งยืน”

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87
แพทย์เตือนผู้ฉีดสารเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ เสี่ยงมะเร็ง
พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยอวัยวะเพศอักเสบและเกิดการลุกลาม หลังไปฉีดน้ำมันมะกอกที่อวัยวะเพศ เพื่อต้องการเพิ่มขนาดที่โรงพยาบาลตำรวจเดือนละ 30 คน
ทั้งนี้การฉีดน้ำมันมะกอกที่อวัยวะเพศจะส่งผลให้เนื้อเยื่อแข็งเป็น พังผืด , การไหลเวียนของโลหิต ไม่สะดวกส่งผลให้เนื้อเยื่อตาย หรือเกิดแผลติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้ท่อปัสสาวะอักเสบได้ รวมถึงมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศสูง
ขณะเดียวกันผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่เข้ารับการรักษา เนื่องจากอาย และมีเพียงร้อยละ 15-50 เท่านั้นที่เข้าพบแพทย์หลังเกิดเนื้องอกไปแล้วนานกว่า 1 ปี