logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaipost.net/news/131112/65077

รณรงค์โรคปอดบวม เตือนภัยเด็กตาย 1.5 ล้าน

           ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ที่ปรึกษาโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤติในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถิติการเสียชีวิตของเด็กส่วนส่วนใหญ่ไม่ว่าเบื้องต้นเป็นโรคอะไรก็ตาม แต่สุดท้ายจะเสียชีวิตจากโรคปอดบวมหรือไม่ก็เป็นโรคปอดบวมตั้งแต่แรกแล้วถึง 18% หรือจำนวน 1.5 ล้านคน หรือเสียชีวิต 1 คน ในทุกๆ 20 วินาที เฉพาะในประเทศไทยมีเด็กเสียชีวิตปีละประมาณ 2 แสนคน หรือคิดเป็นอัตรา 19 ต่อประชากรเด็ก 1 แสนคน  

            ทั้งนี้ มีผลการศึกษาจากประเทศอินเดียพบว่า เด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 1,500 กรัม มีโอกาสเป็นโรคปอดบวมมากกว่าเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวปกติถึง 25% แต่ผู้ปกครองสามารถป้องกันลูกได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำร่างกายให้แข็งแรง และการรับวัคซีนป้องกันโรคได้ แต่วัคซีนดังกล่าวยังไม่ได้ให้บริการอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ประชาชนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่ในปัจจุบันพบว่าในประเทศไทยมีผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวเพียง 5% แสดงว่ายังมีคนที่เข้าไม่ถึงการป้องกันรักษาอีกเยอะมาก

           “โรคปอดบวมส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว เพราะฉะนั้นหากลูกหลานเริ่มเป็นหวัดก็อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาการหวัดธรรมดาอาจจะกลายเป็นโรคปอดบวมหรือเสียชีวิตได้ หรือบางรายหากรักษาหายแล้วอาจจะทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตต่อไปในอนาคต” ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย กล่าว และว่า ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลก (Who) ได้ผลักดันให้โรคปอดบวมเป็นประเด็นสุขภาพระดับโลก และต้องการให้ทุกประเทศมีความรู้และตระหนักถึงการป้องกันโรคปอดบวมในเด็กอย่างต่อเนื่อง จึงกำหนดให้ทุกวันที่ 12 พ.ย.ของทุกปี เป็นวันปอดบวมโลก     

            ด้าน รศ.พญ.อัจฉรา ตั้งสถาพรพงษ์ กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า โรคปอดบวมเกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด โดยเฉพาะเชื้อนิวโมค็อกคัส และเชื้อไวรัสเอ็นทีเอชไอ (NTHi) ที่มักจะเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง นอกจากนี้ เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ จนนำไปสู่การเสียชีวิต หรือในบางรายหากรักษาได้อาจจะก่อให้เกิดความพิการตามมาได้

           “ปัจจุบันการรับวัคซีนไอกรน คอตีบ ก็สามารถป้องกันโรคปอดบวมได้ แต่ยังมีวัคซีนทางเลือกที่ป้องกันเชื้อไวรัสนิวโมค็อกคัสได้โดยตรง ซึ่งตรงนี้ผู้ปกครองต้องออกค่าใช้จ่ายเอง โดยวัคซีนดังกล่าวจะฉีดให้กับเด็กแรกเกิดในช่วง 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือน และช่วง 12-15 เดือน หรือถ้าในเด็กอายุเกิน 1 ปีขึ้นไปแล้วยังไม่ได้รับวัคซีน และยังไม่เคยเป็นโรคปอดบวมเลย จะได้รับวัคซีน 2 เข็ม” รศ.พญ.อัจฉรากล่าว.

14 พฤศจิกายน 2555

Next post > ไทยติดท็อปไฟว์โลก เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนน

< Previous post หมอประดิษฐ วาดฝันไทย เป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ของอาเซียน

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด