logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

สปส.จัดทำระบบไอทีเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกันตนป่วยเป็น ‘โรคเอดส์-ไต’ เข้ากับกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เอื้อผู้ประกันตนออกจากกองทุนใช้สิทธิข้ามกองทุนได้ทันที

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 55  นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ทั้ง 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนประกันสังคม กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและกองทุนสวัสดิการข้าราชการดำเนินการขยาย สิทธิการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์และไตเพื่อความเท่าเทียมกันทั้ง 3 กองทุน ว่า ทางสปส.ได้จัดทำระบบไอทีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคเอดส์และไตเข้ากับระบบข้อมูลของกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้ผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคเอดส์และไต ซึ่งออกจากกองทุนประกันสังคม เช่น กรณีผู้ประกันตนเกษียณอายุจากการทำงานในสถานประกอบการก็สามารถข้ามสิทธิไป ใช้บริการรักษาพยาบาลกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้เลย

เลขาธิการ สปส. ยังกล่าวถึงกรณีที่นายจ้างส่งเงินสมทบล่าช้า ทำให้ลูกจ้างไม่สามารถใช้สิทธิเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายประกัน สังคมได้ว่า ปัญหานี้ไม่กระทบต่อการใช้สิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาลของลูกจ้างเพราะนับ ตั้งแต่วันที่นายจ้างหักเงินเดือนลูกจ้างเพื่อส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ลูกจ้างก็สามารถใช้สิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาลได้ยกเว้นกรณีลูกจ้างลาออก แล้วไม่ได้แจ้งต่อ สปส. จะทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้สิทธิรักษาพยาบาลของลูกจ้าง

          “นายจ้างมีหน้าที่จะต้องหักเงินเดือนลูกจ้าง และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม หากนายจ้างไม่จ่ายก็ไม่กระทบ เพราะ สปส.ให้สิทธิในการรักษาพยาบาลลูกจ้างอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม นายจ้างรายใดไม่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมให้แก่ลูกจ้าง ทาง สปส.จะไปเช็คบิลกับนายจ้างทีหลัง ซึ่งตามกฎหมายประกันสังคมมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”

          นายจีรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีพบเจ้าหน้าที่กองคลังของ สปส.ทุจริตเงินเบิกค่ารักษาพยาบาล ในวงเงิน 500,000 บาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้พนักงานคนดังกล่าวออกจากหน้าที่ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นไว้ก่อน และได้แต่งตั้งนายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการ สปส.เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ ซึ่งระยะเวลาในการสอบสวนข้อเท็จจริงยังบอกไม่ได้ว่าจะสรุปได้เมื่อใด เพราะจะต้องขึ้นอยู่กับการสอบพยาน เนื่องจากพยานและคณะกรรมการฯมีเวลาว่างที่ไม่ตรงกัน ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการสอบสวนนานพอสมควร

 

http://bit.ly/SncK2f

3 ตุลาคม 2555

Next post > ยาซิเดกร้า ขายวันแรกเป็นหมื่นเม็ด !!

< Previous post สธ.เตือนเล่นน้ำท่วมขังระวังโรคตาแดง!

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด