logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP
ประชุมผู้เชี่ยวชาญ การใช้สารชีวภาพรักษาโรคข้ออักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุในเด็กชนิด systemic

ประชุมผู้เชี่ยวชาญ การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการใช้สารชีวภาพรักษาโรคข้ออักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุในเด็กชนิด systemic เพื่อให้ข้อคิดเห็นต่อโครงร่างการวิจัย

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2559 ดร.นพ.ยศ ตีระวัฒนานนท์ หัวหน้าโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ พร้อมด้วยทีมวิจัย HITAP ได้จัดประชุมผู้เชี่ยวชาญ ในโครงการ “การประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการใช้สารชีวภาพรักษาโรคข้ออักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุในเด็กชนิด systemic” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UCBP) เพื่อนำเสนอโครงร่างการวิจัย รับฟังข้อคิดเห็น และปรึกษาแนวทางการดำเนินงาน โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (PReMA) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในครั้งนี้ ทีมวิจัย HITAP จะปรับปรุงโครงร่างการวิจัย และดำเนินโครงการตามขั้นตอนต่อไป

สำหรับโรคข้ออักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุในเด็กชนิด systemic หรือ systemic juvenile idiopathic arthritis (SJIA) นั้น ปัจจุบันยังไม่ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคนี้อย่างชัดเจน ผู้ป่วยโรค SJIA จะมีอาการข้ออักเสบร่วมกับอาการทางระบบต่างๆ เช่น ไข้ ผื่น ต่อมน้ำเหลืองโต ตับม้ามโต เยื่อหุ้มหัวใจและเยื่อหุ้มปอดอักเสบ เป็นต้น การดำเนินของโรคนี้ค่อนข้างรุนแรง สามารถนำไปสู่ภาวะทุพพลภาพและการเสียชีวิตได้ ในประเทศไทยยาหลักสำหรับรักษาโรคนี้ที่ครอบคลุมโดยระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs) glucocorticoid (GC) และ disease-modifying antirheumatic drugs (DMARDs) ซึ่งยาเหล่านี้มีข้อจำกัดในด้านประสิทธิภาพ และ/หรือ ความปลอดภัย ขณะที่ยากลุ่มใหม่คือ สารชีวภาพ (biologic agents) มีข้อมูลสนับสนุนว่ามีประสิทธิผลและความปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านของราคาที่ค่อนข้างสูง กอปรกับยังไม่เคยมีการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของการใช้สารชีวภาพในการรักษาผู้ป่วย SJIA ตามบริบทของประเทศไทย จึงเป็นที่มาของโครงการศึกษาวิจัยดังกล่าว

22 มกราคม 2559

Next post > สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติประจำปี รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2559

< Previous post ประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการวิจัย “อนาคต อย. อนาคตผู้บริโภคไทย”

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

ข่าวสาร HITAP ล่าสุด