logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

 “สุรวิทย์” เผยสธ.กำลังทดสอบนำร่องให้วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าในเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน 15,000 คน ที่จังหวัดสุโขทัย ในระยะ 3 ปี หากได้ผลน่าพอใจ คาดปี 2558 จะบรรจุวัคซีนไวรัสโรต้าเข้าในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแห่งชาติ มั่นใจจะลดป่วยเด็กไทยจากโรคอุจจาระร่วงได้ปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย
       
       วันนี้ (19 ก.ย.) ที่สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงานเดินวิ่งการกุศล “คุณร่วมหยุด เราร่วมหยอด เพื่อช่วยน้องปลอดไวรัสโรต้า” ว่า จากการคาดประมาณขององค์การอนามัยโลกล่าสุด พบว่าในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลก เจ็บป่วยจากโรคอุจจาระร่วงปีละ 3,000-5,000 ล้านคน เสียชีวิต 5-10 ล้านคน พบว่าเชื้อไวรัสโรต้า (rotavirus) เป็นสาเหตุประมาณร้อยละ 20-70 ส่วนใหญ่จะพบในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี

สำหรับประเทศไทยในปี 2554 คาดว่าจะมีเด็กป่วยอุจาจะร่วงจากไวรัสโรต้าจำนวนกว่า 100,000 ราย เสียชีวิตปีละประมาณ 10 ราย มักพบในฤดูหนาว กระทรวงสาธารณสุขเร่งหาแนวทางป้องกันการป่วยและเสียชีวิตของเด็กไทยจากไวรัส ดังกล่าว นอกจากจะพัฒนาเรื่องระบบความสะอาดสุขาภิบาล อาหาร น้ำดื่มแล้ว ยังมีแผนจะบรรจุวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าเข้าสู่แผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน โรคแห่งชาติด้วย ซึ่งขณะนี้มีใช้ในประเทศที่พัฒนาแล้วในแถบยุโรปและอเมริกา โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบนำร่องใน จังหวัดสุโขทัย โดยหยอดวัคซีนให้คนละ 2 ครั้ง เมื่ออายุ 2 และ 4 เดือน จำนวนปีละ 5,000 คน รวม 15,000 คน ในระยะเวลา 3 ปี โดยดำเนินการตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และจะประเมินผลเป็นระยะๆ ทุก 6 เดือน เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน คาดว่าจะติดตามถึงปี 2557 หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จะพิจารณานำวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าเข้าสู่แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ภายในปี 2558 ซึ่งจะทำให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 6 เดือน ทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง จะทำให้เด็กไทยได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ เนื่องจากหากเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เจ็บป่วยบ่อย จะมีผลต่อพัฒนาการของเด็กด้วย
       
       ด้านนายแพทย์จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ไว รัสโรต้าก่อให้เกิดโรคอุจจาระร่วงในเด็กทารก และเด็กเล็ก ส่วนเด็กโต หรือผู้ใหญ่ ส่วนมากมีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้แล้ว หากมีการติดเชื้อชนิดนี้อาจจะไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อยกว่าที่พบในเด็กเล็ก ไวรัสชนิดนี้มีระยะฟักตัว 1-3 วัน เด็กที่ติดเชื้อจะมีอาการอาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ มีไข้ต่ำๆ บางครั้งอาจเกิดอาการร่วมกับอาการทางระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไอ มีน้ำมูกไหล คอแดง ทอนซิลอักเสบ อาการพบนานตั้งแต่ 2-3 วัน จนถึง 7-10 วัน บางรายอาจมีอาการรุนแรง ขาดน้ำ ช็อก อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยทั่วไปโรคนี้จะหายเองได้ประมาณ 2-14 วัน
       
       สำหรับการป้องกันไวรัสโรต้า ที่ผ่านมา จะเน้นการรักษาอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมือ การรักษาความสะอาดในการประกอบอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ การดูแลห้องสุขาให้สะอาดถูกสุขลักษณะแล้ว หากมีวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า เพิ่มเติม มั่นใจว่าสามารถช่วยป้องกันโรคดังกล่าวได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000115327&utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter

19 กันยายน 2555

Next post > คร.จับสสจ.36 จังหวัดเซ็น MOU แก้ปัญหาเอดส์

< Previous post Painkillers 'are the cause' of millions of headaches

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด