logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายสร้างความเป็นเอกภาพและบูรณาการสิทธิประโยชน์ในการให้ บริการเจ็บป่วยฉุกเฉินไปแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาขยายสิทธิสร้างความเสมอภาคในการดูแลผู้ติดเชื้อ เอชไอวี/ ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เพื่อให้ผู้ป่วยใน 3 กองทุน ทั้งสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สิทธิ 30 บาท สิทธิประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม อาทิ ผู้ป่วยไตวายฯ อยู่สิทธิประกันสังคม และลาออกต้องอยู่ในสิทธิ 30 บาทอัตโนมัติ ได้รับการรักษาต่อเนื่องในสถานพยาบาลเดิมทันที โดยสิทธิทั้งสองอย่างจะเริ่มใช้จริงในวันที่ 1 ต.ค. นี้
กรณี ผู้ป่วยเอดส์ ขณะนี้หารือว่าจะต้องปรับในเรื่องเกณฑ์ข้อกำหนดการรับยาต้านไวรัสเอชไอวีให้ เท่าเทียมทั้ง 3 กองทุน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้ตามข้อกำหนดที่องค์การอนามัยโลกระบุไว้ คือ ผู้ป่วยต้องได้รับยาต้านไวรัสฯ ที่ค่าซีดีโฟว์ (CD4) หรือ ค่าภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ที่ 350 แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 200 ซึ่งจะนำเสนอในที่ประชุม บอร์ด สปสช. ในวันที่ 3 ก.ย. โดยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรับยาต้านไวรัสฯ 225,272 คน ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค 148,357 คน ร้อยละ 65.9 สิทธิประกันสังคม 46,114 คน หรือร้อยละ 20.5 สิทธิข้าราชการ 12,059 คน ร้อยละ 5.4 และสิทธิอื่นๆ 18,742 คน ร้อยละ 8.3

 

http://goo.gl/JqVx2

3 กันยายน 2555

Next post > สธ.ชูกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ช่วยคนไทยไม่ล้มละลายจากเจ็บป่วย

< Previous post รณรงค์อนุรักษ์ "ป่าสมุนไพร" มหาสารคาม 17 ตำรับ

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด