ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP
สธ. จัดแข่งขัน ‘ฮูลาฮูป’ ชิงแชมป์ระดับประเทศ พร้อมถ้วยรางวัล-เงินสดรวมกว่า 2 แสนบาท หวังกระตุ้นคนไทยออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
20 ส.ค.55 นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการจัดการแข่งขันฮูลาฮูปชิงชนะเลิศระดับประเทศ ซึ่งกำหนดในวันที่ 6 ก.ย.55 ที่โรงยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
นายวิทยา กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการสร้างสุขภาพเพื่อลดอัตราป่วยและตายจากโรคไม่ติดต่อ เรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพฤกษ์อัมพาต และมะเร็ง มีผู้เสียชีวิตปีละกว่า 1 แสนคน และคาดว่ามีคนป่วยรวม 18.25 ล้านคน ใช้ค่ารักษาพยาบาลประมาณ 335,359 ล้านบาทต่อปี โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นการรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การออกกำลังกาย 2.การกินอาหารลดหวานมันเค็ม เพิ่มการกินผักผลไม้ และ3.ลดละการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้สนับสนุนให้ประชาชนออกกำลังกายโดยใช้การเล่นฮูลาฮูป ที่กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของประชาชน เนื่องจากเล่นง่าย เล่นได้ทุกเพศทุกวัย และให้จัดการแข่งขันในระดับจังหวัด ภาค และประเทศ เพื่อกระตุ้นให้คนไทยตื่นตัวหันมาออกกำลังกายให้มากขึ้น สม่ำเสมอ จนติดเป็นนิสัย
ทั้งนี้ ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อในประเทศไทยของกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2553 เปรียบเทียบกับปี 2550 พบว่าประชาชนอายุ 15-74 ปี ขึ้นไปที่มี 47.8 ล้านคน อ้วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19 เป็นร้อยละ 21 เนื่องจากออกกำลังกายลดลงจากร้อยละ 38 เหลือร้อยละ 35 กินผักผลไม้ลดลงจากร้อยละ 23 เหลือร้อยละ 22 ซึ่ง 2 พฤติกรรมนี้ เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดจัดการแข่งขันฮูลาฮูป ตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2555 เป็นต้นมา ซึ่งมีทั้งประชาชนทั่วไป และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ สนใจเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก และได้คัดเลือกตัวแทนของจังหวัดเข้าแข่งขันชิงชนะเลิศในระดับภาคในวันที่ 23 สิงหาคม – 3 กันยายน 2555 และชิงชนะเลิศระดับประเทศ ในวันที่ 6 กันยายน 2555 นี้ ที่โรงยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป
“ที่น่าห่วงคือขณะนี้ พบว่ามีบางกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่ใช้คอเหวี่ยงห่วงฮูลาฮูปแทนเอว และใช้ห่วงหลายอัน ซึ่งเป็นวิธีที่อันตราย ไม่ควรทำ และไม่มีผลต่อการลดน้ำหนัก ในทางตรงข้ามน้ำหนักของห่วงอาจทำให้กระดูกคอและกล้ามเนื้อที่คอบาดเจ็บได้ การเล่นที่ถูกวิธีควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณเอว หลัง แขน ขาก่อนและหลังเล่นทุกครั้ง และเริ่มในปริมาณน้อยๆเพื่อให้ร่างกายปรับตัวก่อน จากนั้นค่อยๆเพิ่มระยะเวลาให้นานขึ้นเป็นครั้งละประมาณ 30-60 นาที นอกจากนี้ประชาชนที่มีปัญหากระดูกพรุน หรือผู้ที่เป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม ไม่ควรออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ ควรใช้วิธีอื่นๆ เช่น การเดิน ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำแทน” นพ.ไพจิตร์ กล่าว
ทางด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตัวแทนระดับจังหวัดแล้ว ครบ 76 จังหวัด เพื่อเข้าแข่งขันระดับภาคและระดับประเทศ แบ่ง เป็น 2 กลุ่ม คือ1.ประเภทลีลา ทีมๆละไม่ต่ำกว่า 30 คน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อยคือกลุ่มชนะ 5 อันดับแรกของแต่ละภาค จำนวน 20 ทีม และที่ตกรอบ 56 ทีม และ2.ประเภทมาราธอน ผู้เต้นได้นานที่สุด โดยในวันแข่งขันชิงชนะเลิศระดับภาคจะมีนิทรรศการและบู๊ทสาธิตอาหารลดหวานมัน เค็ม การออกกำลังกาย อารมณ์ สุรา และบุหรี่ และการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากสโมสรชิมิ กระแต และกระต่าย ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรี
สำหรับทีมที่ชนะเลิศประเภทลีลาในกลุ่ม 20 ทีม จะได้รับถ้วยและเงินรางวัล 40,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ถ้วยและเงินรางวัล 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ถ้วยและเงินรางวัล 20,000 บาท รางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ส่วนในกลุ่ม 56 จังหวัด ทีมชนะเลิศจะได้รับถ้วยและเงินรางวัล 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ถ้วยและเงินรางวัล 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ถ้วยและเงินรางวัล 15,000 บาท รางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 7,500 บาท และประเภทมาราธอน ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยและเงินรางวัล 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ถ้วยและเงินรางวัล 15,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ถ้วยและเงินรางวัล 10,000 บาท รางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า ในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที การเต้นฮูลาฮูปเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ช่วยบริหารกล้ามเนื้อช่วงเอวและสีข้างให้มีความยืดหยุ่น กระชับ และแข็งแรงขึ้น ทำให้รูปร่างดี ลดไขมันพอกที่เอวและหน้าท้อง การทรงตัวดี เมื่อเต้น 30 นาทีจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ 200 แคลอรี่เท่ากับการวิ่งเหยาะ น้ำหนักตัวจะลดลง หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น
สธ.เตรียมเสนอร่างกม.เหล้า 4 ฉบับคุมเหล้าปั่น
นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า หลังจากมีการบังคับใช้ประกาศตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เรื่อง การห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางสาธารณะ ขณะขับขี่หรือขณะโดยสารอยู่ในรถหรือบนรถทุกประเภท ซึ่งหมายถึงท้ายรถ เว้นแต่รถราง รถไฟ โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา หากใครฝ่าฝืนจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ล่าสุดสำนักงานฯ เตรียมเสนอร่างประกาศอีก 4 ฉบับ เพื่อเสนอคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธาน พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมในเดือนกันยายนนี้
นพ.สมาน กล่าวว่า สำหรับร่างประกาศที่จะเสนอทั้ง 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1.ร่างประกาศห้ามขายเหล้าปั่นทุกพื้นที่ 2.ร่างประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณรอบสถานศึกษา 300 เมตร 3.ร่างประกาศกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท รวมทั้งร้านที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต และ 4 ร่างประกาศห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางสาธารณะเพื่อการจราจร ทางบก ได้แก่ ถนนสาธารณะ ไหล่ทาง ทางเท้า ซึ่งร่างประกาศฉบับที่ 4 คณกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคยพิจารณาตีกลับ เพื่อให้ไปสำรวจความคิดเห็นประชาชนก่อน โดยล่าสุดตนได้รวบรวมผลสำรวจ และพบว่า สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตเคยสำรวจมาตั้งแต่ปี 2554 ในกลุ่มประชาชนจำนวน 5,000 ตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 80 เห็นด้วย
“ส่วนกรณีร่างประกาศกำหนดเวลาห้ามขายสุรานั้น ปัจจุบันใช้กฎหมายตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับ 253 กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตขายสุรา ห้ามขายนอกเวลาที่กำหนด โดยให้ขายได้ใน 2 ช่วง คือ ตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ปัญหาคือ ในผู้ขยที่ไม่มีใบอนุญาต หรือพวกขายเหล้าเถื่อน จะเอาผิดตรงนี้ไม่ได้ แต่เอาผิดได้เฉพาะไม่มีใบอนุญาตขาย มีโทษปรับ 500 บาทสำหรับสุราไทย และ 2,000 บาทสำหรับสุราต่างประเทศ ตรง นี้ไม่เป็นธรรม จะมีการปรับใหม่ โดยประกาศนี้จะเหมารวมทั้งหมดให้มีโทษเดียวกัน ไม่ว่าจะมีใบอนุญาตขายสุราหรือไม่มีก็ตาม” นพ.สมาน กล่าว
http://bit.ly/PsEGiq
21 สิงหาคม 2555