logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

 “องคมนตรี” แนะถอดบทเรียน 5 ปี วิจัย R2R บรรจุหลักสูตร ป.ตรี – ขยายสู่ระบบ สธ.
       
       ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าว ปาฐกถาพิเศษในงานประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากงานประจำสู่งานวิจัย หรือ Routine to Research (R2R) ครั้งที่ 5 “วิถี R2R : เรียบง่าย คุณภาพ ครบวงจร” ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี จัดโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และภาคีเครือข่าย R2R ว่า งานวิจัย R2R ที่ สวรส.ได้มีการผลักดันมาตลอด 5 ปี สามารถช่วยสนับสนุนงานด้านสาธารณสุขได้อย่างมากมาย เพราะเป็นกระบวนการพัฒนาข้อมูลจากงานประจำ และนำผลวิจัยที่ได้ไปพัฒนางานประจำอีกต่อหนึ่ง ที่สำคัญ งาน R2R ของบุคลากรทางด้านสาธารณสุขทุกผลงานนั้น มีคุณค่าที่เห็นได้ชัดเจน เพราะผ่านกลไก กระบวนการคิด สติปัญญาในการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมการทำงานให้มีคุณภาพดี ทำให้คนทำงานสาธารณสุขสบายใจขึ้น คนรับบริการก็มีความสุข
       
       “งานวิจัย R2R จึงมีคุณค่าที่สอดคล้องกับหลักธรรมที่เรียกว่า “พหุชนะหิตายะ พหุชนะสุขายะ” ที่มุ่งทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเป็นความสุขของประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เหล่านี้จะทำให้เกิดระบบสาธารณสุขที่เป็นปึกแผ่นที่เข้มแข็งมากขึ้น” ศ.นพ.เกษม กล่าว 
       
       ทั้งนี้ มองว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ของการจัด R2R มีผลงานที่มากพอสำหรับการถอดบทเรียน โดยเสนอให้มีคณะกรรมการ 1 ชุด เพื่อทำการประเมินสรุปหาคุณค่าว่ามีอะไรที่ควรพัฒนา เป็นประโยชน์ หรือยังต้องปรับปรุง เพื่อรวบรวมมาทำให้เกิดการใช้งาน R2R ในวงกว้างกับระบบสาธารณสุข แพทย์ พยาบาล เภสัช ประชาชน รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะที่ปัจจุบันภาคการศึกษาถือว่าเข้ามามีบทบาทในเรื่องงานวิจัย R2R ยังไม่มากพอ ฉะนั้นจะต้องมาช่วยกันคิดต่อว่าจะทำอย่างไรให้แต่ละสถาบันโดยเฉพาะในระดับ ป.ตรี ได้นำเรื่องนี้บรรจุไว้ในการเรียนการสอน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลในอนาคต รวมไปถึงการดึงโรงพยาบาล หน่วยงานสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อขยายเครือข่าย R2R ซึ่งนับว่าเป็นโจทย์ที่สำคัญ

 

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000085861

13 กรกฎาคม 2555

Next post > Merck osteoporosis drug, company pipeline win more respect

< Previous post สธ.บุรีรัมย์ สั่งคัดกรองเด็กกัมพูชา เพื่อป้องกันโรคมือเท้าปาก

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด