“MIDAS Medical Innovation Hackathon 2025” เวทีขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการแพทย์ สู่สิทธิประโยชน์ของคนไทย

วันที่ 1-3 เม.ย. 58 HITAP จัดอบรมการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HTA Training) และเวทีเสวนาเรื่อง “HTA เพื่อการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 มีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งสิ้นกว่า 70 คนจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัย การอบรมมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในหลักการและความสำคัญของการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ
เนื้อหาการอบรมแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การบรรยายครอบคลุมเรื่องการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ การคัดเลือกหัวข้อเพื่อทำการประเมินฯ การวางแผนเพื่อทำการประเมินฯ การนำผลประเมินไปใช้ในเชิงนโยบาย และการประเมินผลกระทบที่เกิดจากการประเมินเทคโลยีด้านสุขภาพ ส่วนที่ 2 คือการเสวนาเรื่อง “HTA เพื่อการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” โดยผู้ร่วมเสวนาได้แก่ เข้าร่วมเสวนา เช่น นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาและจัดทำข้อเสนอการพัฒนากลไกกลางเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระบบหลักประกันสุขภาพภาครัฐ ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย (THAIMED) ศ.พญ.ดวงฤดี วัฒนศิริชัยกุล โรงพยาบาลรามาธิบดี และ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี ประธานกลุ่มภารกิจยุทธศาสตร์และการประเมินผล สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
ผู้เข้าร่วมการเสวนาได้เสนอมุมมองที่น่าสนใจต่อการใช้ HTA เพื่อการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ว่า
นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กล่าวว่าแม้การพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะมีการใช้ข้อมูลความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของเทคโนโลยีด้านสุขภาพในการพิจารณา แต่ก็มีการพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วยในหลายมิติ เช่น ประเด็นจริยธรรม และความเป็นไปได้ของการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในทางปฏิบัติ
ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช ให้ข้อคิดเห็นว่าการทำเรื่องการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพนั้นดี แต่ไม่ตอบโจทย์ เพราะเป็นการพิจารณายาใหม่หรือเทคโนโลยีใหม่เข้าไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้เอาของเก่าที่ไม่ดีออก ส่งผลต่อการดำเนินนโยบายที่เน้นเพียงต่อรองราคากับภาคอุตสาหกรรม เพราะงบประมาณไม่เพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เพิ่มงบประมาณ เพราะผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกปี
ศ.พญ.ดวงฤดี วัฒนศิริชัยกุล ให้ข้อคิดจากมุมมองผู้ปฏิบัติว่าในกระบวนการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ฯ ยังไม่มีผู้ประสานงานที่ชัดเจน นอกจากนี้ เมื่อมีการเสนอหัวข้อไปแล้วยังไม่สามารถติดตามความก้าวหน้าได้
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารีเสนอว่าในอนาคต ควรมีการศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงระบบในการประเมินผลที่เกิดจากที่มีการใช้เทคโนโลยีนั้นแล้ว เพื่อติดตามผลร่วมด้วยว่าเมื่อใช้จริงแล้วเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดการประเมินอย่างเป็นระบบ
จากการสอบถามความเห็นผู้เข้าร่วมอบรม ส่วนใหญ่ระบุว่าจะแนะนำให้คนรู้จักเข้าร่วมการอบรมนี้ในครั้งต่อ ๆ ไป เพราะเห็นว่าเนื้อหาการอบรมเป็นความรู้ใหม่ที่มีประโยชน์ทั้งต่อตัวผู้ตอบแบบสอบถามและองค์กร สามารถนำความรู้ไปต่อยอดได้ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการทำงานต่อไป อย่างไรก็ดีมีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจว่า รูปแบบและวิธีการอบรมอาจยังไม่เหมาะ สำหรับผู้ที่ต้องการนำความรู้ไปใช้ในเชิงปฏิบัติเพราะเน้นทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ ทั้งนี้ผู้จัดจะนำข้อเสนอแนะที่ได้ไปปรับปรุงสำหรับการจัดการอบรมครั้งต่อ ๆ ไป