logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000071638   

วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเซลส์ (TCELS) ศ.เกียรติคุณ มนตรี จุฬาวัมทล ที่ปรึกษาทีเซลส์ แถลงข่าว “แนวคิดการตั้งเขตพัฒนาและบริการสุขภาพแนวใหม่ของประเทศไทย หรือ เวชนคร (Medicopolis) ว่า แม้ปัจจุบันไทยจะมีนโยบายเมดิคัล ฮับ (Medical Hub) แต่ยังเป็นการดำเนินการของสถานพยาบาลแต่ละแห่ง ที่สำคัญ ยังขาดเทคโนโลยี พวกยา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ต่างๆ ซึ่งยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของไทยสูงทุกปี หรือคิดเป็นร้อยละ 4-5 ของค่าจีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ แต่หากไทยมีการดำเนินการนโยบายสุขภาพที่เป็นระบบ และครอบคลุมจริงๆ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ ที่สำคัญยังสามารถนำรายได้เข้าประเทศจากการรับบริการสาธารณสุขแบบครบวงจรอีก ด้วย
       
       ศ.เกียรติคุณ มนตรี กล่าวว่า ทีเซลล์จึงเกิดแนวคิดในการทำระบบดังกล่าวให้เป็นนครด้านสุขภาพขึ้น ที่เรียกว่า “เวชนคร” หรือ เมดิคัลโพลิส (Medicopolis) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเป็นศูนย์รวมงานวิจัยด้านสาธารณสุข การบริการทางการแพทย์ต่างๆ ทั้งสปา ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การเสริมความงาม ศํลยกรรม โดยทั้งหมดจะเน้นในเรื่องของการป้องกันโรคเป็นหลัก เรียกว่า ทำคล้ายๆ นิคมอุตสาหกรรม แต่แนวคิดนี้เป็นนิคมด้านบริการสาธารณสุขนั่นเอง ทั้งนี้ เวชนคร จะมีเป้าหมาย 3 ด้าน คือ 1.เป็นเขตให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนที่มีประสิทธิภาพ 2.สร้างเศรษฐกิจบริการสุขภาพ และ 3.บูรณาการการวิจัยและพัฒนายา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์กับการใช้ในการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งตรงนี้สำคัญ หากรัฐให้ความสำคัญและเอกชนร่วมลงทุนจะทำให้การวิจัยรุดหน้าขึ้น ลดการนำเข้ายา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ต่างๆ ได้
       
       “การจะทำเป็นเวชนครนั้น จะเน้น 4 ประเภท ขึ้นอยู่กับความชำนาญและเหมาะสมของพื้นที่นั้นๆ ประกอบด้วย 1.Platinum เน้นบริการผู้สูงอายุเพื่อให้บริการสุขภาพแก่กลุ่มวัยทองที่มีแนวโน้มเพิ่ม ขึ้น 2.Superstar เน้นบริการให้กลุ่มที่นิยมความสวยความงาม 3.Wellness เป็นการส่งเสริมให้เกิดชุมชนที่มีสุขภาพที่ดีสามารถประกอบอาชีพได้เต็มที่ และดำรงชีวิตอย่างมีความสุข เช่น การดึงเข้าร่วมฝึกอาชีพทำสปา หรือผลิตสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เป็นต้น และที่สำคัญ4.Technology จะเป็นการมุ่งเน้นการวิจัยพัฒนายา เวชภัณฑ์ เครื่องมือต่างๆ ซึ่งข้อนี้สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มรักสวยรักงาม หรือกลุ่มสปา ล้วนต้องมีการวิจัยและพัฒนาด้านยา เวชภัณฑ์ ซึ่งจุดนี้จะทำให้เวชนครแตกต่างจากเมดิคัล ฮับ ที่สำคัญยังไม่เน้นกลุ่มชาวต่างชาติ เราเน้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนไทยต้องให้บริการ” ศ.เกียรติคุณ มนตรี กล่าว
       
       ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานเพื่อขอเป็นพื้นที่นำร่องแล้ว เราจะเสนอแนวคิดดังกล่าวไปยังกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรมในการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพ การส่งเสริมเป็นอุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากต้องขอความร่วมมือกับชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ้น (อปท.) จากนั้นจะเสนอโครงการให้ทางรัฐบาลพิจารณาภายในปีนี้ โดยทั้งหมดนอกจากจะได้รับบริการด้านสาธารณสุขที่ครบวงจรแล้ว ยังสร้างรายได้เข้าประเทศไทย ที่สำคัญแนวคิดนี้ยังเป็นการรองรับประชาคมอาเซียนในปี 2558 นี้อีกด้วย ซึ่งไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพอย่างครบวงจรจริงๆ

12 มิถุนายน 2555

Next post > กรมควบคุมโรค แนะนายจ้างพาแรงงานต่างด้าวฉีดวัคซีนหัด

< Previous post เร่งรัฐลดเหลื่อมล้ำรักษา"เอดส์-ไต"

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด