logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

สธ. เร่งพัฒนาศักยภาพ อสม.ทุกคน ให้เป็น “นักจัดการสุขภาพชุมชน”

http://www.moph.go.th/ops/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=40461

สาธารณสุข เร่งพัฒนาขีดความสามารถอาสาสมัครสาธารณสุขทุกคน เป็น“นักจัดการสุขภาพชุมชน” สามารถประเมินปัญหาสุขภาพในชุมชน วางแผนและหาวิธีจัดการปัญหาร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อให้การบริการสอดคล้องกับสภาพปัญหาการเจ็บป่วยในพื้นที่ โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง เช่นเบาหวาน และปัญหาสุขภาพที่เกิดจากภัยพิบัติเช่น น้ำท่วม พร้อมสนับสนุนชุดปฎิบัติการในชุมชน อาทิ ปรอทวัดไข้ ชุดปฐมพยาบาล ยาตำราหลวง เป็นต้น จำนวน 10,000 ชุด ให้ อสม.ทั่วประเทศ

วันนี้ (29 สิงหาคม 2554) ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมพัฒนาศักยภาพแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ในการแก้ปัญหาภัยพิบัติในชุมชน โดยมีประธานชมรม อสม.แห่งประเทศไทย และแกนนำ อสม.ระดับภาค จังหวัด อำเภอ และตำบล รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคกลางประกอบด้วยพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานีและนนทบุรี จำนวน 200 คนเข้าร่วมประชุม และมอบเครื่องกรองน้ำเคลื่อนที่ เสื้อชูชีพ เจลล้างมือ ยาตำราหลวง ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า หน้ากากอนามัย จำนวน 200 ชุด ให้อสม.เขตภาคกลางที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำไปใช้ดูแลสุขภาพประชาชน

นายวิทยา กล่าวว่า ช่วงฤดูฝนปีนี้ หลายพื้นที่ของไทยต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นภารกิจแรกที่นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่สำรวจ ให้กำลังใจ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้เร็วที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการรักษาพยาบาลในสถานบริการและจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ ยังมีภาคประชาชนคือ อสม. อีก 1 ล้านกว่าคน เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประชาชนด้วย

นายวิทยา กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาความรู้และความสามารถ อสม.ทุกคนให้เป็น “นักจัดการสุขภาพชุมชน” สามารถประเมินปัญหาสุขภาพในชุมชน วางแผนและหาวิธีจัดการปัญหาร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งประสานขอความร่วมมือองค์กรปกท้องถิ่น เอกชน เข้ามามีส่วนร่วม สนับสนุนการแก้ปัญหาสุขภาพในชุมชน เพื่อให้ทันต่อสภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง ซึ่งคนไทยป่วยกันมาก เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ได้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำงานของอสม.ในชุมชน เช่น ปรอทวัดไข้ ชุดปฐมพยาบาล ยาตำราหลวง เป็นต้น จำนวน 10,000 ชุด เพื่อบริการสุขภาพประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับในปี 2554 นี้ จะเน้นการอบรมให้ความรู้ อสม.ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ เช่น ภาวะน้ำท่วม ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบทุกปี เพื่อให้อสม.มีบทบาทและแผนการช่วยเหลือประชาชนอย่างชัดเจน ดังนี้1.ในระยะก่อนน้ำท่วม อสม.ต้องให้ความรู้ประชาชนเรื่องการปฎิบัติตนเพื่อป้องกันโรคติดต่อ เช่น น้ำกัดเท้า ตาแดง ท้องร่วง ไข้ฉี่หนู เป็นต้น 2.ในระยะน้ำท่วม อสม.ต้องออกเยี่ยมบ้านช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนทุกรูปแบบ ทั้งให้กำลังใจ ถุงยังชีพ ยา และของบริจาคอื่นๆ และ3.ในระยะหลังน้ำท่วมหรือระยะฟื้นฟู อสม.ต้องแนะนำการดูแลด้านสุขอนามัย สิ่งแวดล้อม เช่น ความสะอาดห้องสุขา บ่อน้ำ การบริโภคน้ำและอาหารที่ปรุงสุกใหม่ รวมทั้งเยียวยาด้านจิตใจ ครอบครัวที่สูญเสียชีวิตหรือทรัพย์สินด้วย

30 สิงหาคม 2554

Next post > สธ. ขยายเวลาฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ออกไปอีก 1 เดือนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2554

< Previous post “วิทยา” ให้ทีมเคลื่อนที่เร็ว 1,030 ทีม เฝ้าระวังโรคระบาดในพื้นที่น้ำท่วม ตลอด 24 ชม.

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด