logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

ฉีดวัคซีนกันมะเร็ง ดญ.ต่ำ12 คุ้มค่าศก.

http://www.thaipost.net/news/231110/30511

    หมอจุฬาฯ เผยผลวิจัย ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 12 ปี คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และสอดคล้องแนวโน้มวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็ว     วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผลการวิจัย “โครงการประเมินความคุ้มค่าในการใช้วัคซีนเอชพีวี (HPV) เพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทย” รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าสาขาวิชามะเร็งนรีเวชวิทยา ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ผลการวิจัยพบว่า ถ้าให้วัคซีนเอชพีวีแก่เด็กหญิงอายุ 12 ปี แม้ค่าใช้จ่ายของวัคซีนจะมีราคาสูง แต่สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูก หรือปากมดลูกมีเซลล์ผิดปกติก่อนเป็นมะเร็งได้ร้อยละ 70 แต่อีกร้อยละ 30 ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ยังต้องได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และตรวจภายในประจำปี
    

     ทั้งนี้ผลงานวิจัยได้นำการคำนวณแบบจำลองมาร์คอฟ (Markov Model) มาประยุกต์ใช้ เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการใช้วัคซีนเอชพีวีในประเทศไทย พบว่า หากต้นทุนต่อความคุ้มค่ามีผลลัพท์อยู่ที่ไม่เกิน 3 เท่าของรายได้ต่อหัวประชาชาติ (GDP) เมื่อพิจารณารายได้ต่อหัวของประชาชาติไทย 130,000 บาท ในปี 2009 พบว่า การใช้วัคซีนเอชพีวีมีต้นทุนต่อความคุ้มค่าอยู่ที่กว่า 1 เท่า ของ GDP ดังนั้นน่าจะนำผลวิจัยนี้มาต่อยอดศึกษาเพิ่มเติม และส่งเสริมให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปาดมดลูกในเด็กหญิงไทยอายุตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมีอัตราผู้หญิงไทยเสียชีวิตสูงถึงวันละ 14 คน เนื่องจากขณะนี้ราคาของวัคซีนก็ถูกลงจากประมาณ 12,000 บาท ปัจจุบันมีราคาประมาณ 6,000 บาท
    

     “เด็กวัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์กันเร็วนี้ทำให้มีแนวโน้มที่พบผู้ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกในอายุที่น้อยลง ดังนั้นการให้ความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร รู้จักวิธีป้องกัน มาพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็ง จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น”

23 พฤศจิกายน 2553

Next post > "จุรินทร์” รณรงค์ใช้ถุงยางอนามัย ลดการติดเชื้อเอดส์รายใหม่ ตั้งเป้าปีหน้าลดเหลือไม่เกิน 5-6 พันราย

< Previous post แก้กม.กระจกตาศพชันสูตร

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด