logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

เตรียมปูพรมหาคลินิกเถื่อนเอี่ยว “ทำแท้ง” 348 ศพ-สบส.จับตาสถานบริการความงามผิด กม.เพิ่ม

http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9530000162686

     วันนี้ (17 พ .ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีพบศพเด็กทารกในที่เก็บศพของวัดไผ่เงินโชตินาราม เขตบางคอแหลม กทม.348 ศพ ว่า ได้รับรายงานเมื่อเช้าวันนี้ว่า ศพทารกที่พบน่าจะเกิดจากการทำแท้ง เพราะทารกบางศพอวัยวะยังไม่ครบและบางส่วนยังเป็นก้อนเลือด และจากการสอบสวนสัปเหร่อได้ข้อมูลที่ค่อนข้างเชื่อได้ว่า มีสถานพยาบาล 2-3 แห่ง ที่เปิดให้บริการทำแท้ง ได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และพนักงานสอบสวน เข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย เพราะกรณีดังกล่าว มีความผิดตามกฎหมายอาญา เรื่องการทำแท้ง และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ที่เอาผิดกับคลินิกเถื่อนหรือคลินิกที่ขออนุญาตเปิดถูกกฎหมาย แต่กระทำผิดกฎหมายก็จะถูกลงโทษด้วย ส่วนแพทย์ก็จะมีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ที่เป็นตัวบังคับแพทย์ไม่ให้ทำผิดกฎหมาย หากทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันที่ สน.วัดพระยาไกร นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรม สบส.เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร เพื่อหารือถึงความร่วมมือในการดำเนินการตรวจจับคลินิกที่เข้าข่ายทำแท้งเถื่อน ซึ่งอาจเชื่อมโยงกรณีพบศพทารกนับร้อยถูกนำมารอเผาภายในสถานที่บรรจุศพของวัดไผ่เงินโชตนาราม โดย พ.ต.อ.เมธี กล่าวว่า หลังจากพบซากศพเด็กทารกจำนวน 348 ศพ ขณะนี้ได้มีการหารือและส่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบออกหาข้อมูลตามสถานที่รอบๆ บริเวณ รวมทั้งได้สอบปากคำบุคคลในวัดไปแล้ว 5-6 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดว่าใครเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวบ้าง ดังนั้นจึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครคือผู้ต้องหาในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ศพทารกทั้งหมดจะนำส่งตรวจสอบทางนิติเวชที่ รพ.จุฬาฯ
       
       ต่อข้อถามว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการตรวจสอบในส่วนของพระภิกษุในวัดไผ่เงินด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.เมธี กล่าวว่า ได้มีการส่งทีมสืบสวนเข้าไปดำเนินการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากได้ข้อมูลชัดเจนจะขอหมายศาลเพื่อบุกค้นคลินิกต้องสงสัยทันที
       
       นพ.สมชัย กล่าวว่า สบส.ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินการตรวจสอบว่า มีคลินิกใดที่เป็นจุดสงสัย เนื่องจาก สบส.จะมอบหมายให้ทางกสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ เข้าไปตรวจสอบว่า คลินิกดังกล่าวได้รับมาตรฐานวิชาชีพ และได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตามที่ได้รับมอบหมายจาก รมว.สธ. โดยหากพบว่า เป็นคลินิกเถื่อน ไม่ได้รับใบอนุญาตย่อมถือว่าผิดตามกฎหมาย สั่งปิดได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้รับโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันหากการดำเนินการในคลินิกนั้นๆ ไม่ใช่แพทย์ยังต้องรับโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากเป็นแพทย์ก็จะเป็นกรณีของแพทยสภาในการตรวจสอบจริยธรรมด้วย
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปมีคลินิกที่มีความผิดปกตินั้นมีประมาณกี่แห่ง นพ.สมชัย กล่าวว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีคลินิกใดที่อาจมีความเสี่ยงในการดำเนินการผิด กม.ในด้านการรับทำแท้ง ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเป็นคลินิกและสถานบริการเสริมความงาม หรือคลินิกให้คำปรึกษาครอบครัว ได้มีการตรวจสอบคร่าวๆ ไม่เกิน 20 แห่ง แต่ยังไม่อยากระบุชัดเจน เพราะคลินิกเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะเข้าข่าย 100% เนื่องจากอาจไม่ใช่ก็ได้
       
       ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มีคลินิกในพื้นที่ กทม.ที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 3,900 แห่ง ทั้งนี้ เฉพาะพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ บริเวณเขตบางคอแหลมและสาทร พบประมาณ 100 แห่ง ในจำนวนนี้มีคลินิกที่มีความเสี่ยงอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม โดยปกติกองประกอบโรคศิลปะมีการตรวจสอบมาตรฐานคลินิกเป็นประจำปีละ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่ไม่พบปัญหาอะไร แต่ในกรณีคลินิกที่มีการทำแท้งนั้น ในแต่ละปีจะตรวจสอบพบปีละ 10 กว่าแห่ง พื้นที่ภาคกลางพบมากที่สุด รองลงมา คือ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ต่างจังหวัดทั้งสิ้น

18 พฤศจิกายน 2553

Next post > “จุรินทร์” เผย ปี 53 ศูนย์พึ่งได้ของสธ. ได้ช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง 25,744 ราย เฉลี่ยวันละ 71 ราย

< Previous post “เด็กอาชีวะ“พี้กัญชา 23.6% นักเรียนชายม.2 ใช้กระท่อม สำนักระบาดวิทยาเผยผลสำรวจ

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด