logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

กรมควบคุมโรค เผยปีนี้หนาวจัด

http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=34618

        นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ของประเทศไทยได้ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน และหลังจากน้ำลดก็เป็นช่วงที่เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ฤดูหนาวพอดี ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์เอาไว้ว่าหน้าหนาวปีนี้ประเทศไทยจะมีอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 30ปี และจะหนาวนานกว่าทุกปี นอกจากปัจจัยจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากกว่าปกติแล้วยังมีปัจจัยทางด้านอื่นๆที่อาจ ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ทำให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยและโรคแทรกซ้อนต่างๆได้ง่าย ได้แก่ จากสภาพแวดล้อมที่มีเศษขยะและสิ่งปฏิกูลตกค้างหลังน้ำท่วม จนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของของเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลในหลายๆพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมที่อาจจะยังขาดความพร้อมในการให้บริการทางด้านการรักษาและการดูแลสุขภาพประชาชน ดังนั้นการรณรงค์และการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะประชาชนจะได้หันมาดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวอย่างจริงจังมากขึ้น


          นพ.มานิต กล่าวต่อว่า 6 โรคที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงหน้าหนาวนี้ ได้แก่ โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคสุกใส และโรคอุจจาระร่วง และโรคผิวหนัง รวมถึงการเสียชีวิตของผู้สูงอายุจากอากาศที่หนาวเย็น ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนกรมควบคุมโรคจึงได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันโรคและให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยในช่วงฤดูหนาวนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ โรคไต และโรคโลหิตจาง ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีภูมิต้านทานต่อโรคต่ำ เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย และเมื่อป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ควรมีการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ ด้วยการรักษาความอบอุ่นของร่างกาย สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ โดยเฉพาะในเด็กที่สภาพร่างกายสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายตามสภาพอากาศ ให้ใส่ถุงเท้า หมวกไหมพรม หากไม่มีให้ใส่เสื้อผ้าหลายๆชั้นและห่มผ้าให้หนามากกว่าปกติ รวมทั้งต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ประเภทแป้งและไขมันเพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใส่ใจเรื่องการดื่มน้ำและเครื่องดื่มอุ่นๆที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นแล้วยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกายด้วย

          ที่สำคัญประชาชนควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การดื่มสุรา ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้วยังมีผลเสียทำให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ ควรหลีกเลี่ยงการผิงไฟในเต้นท์เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับสารพิษจากควันไฟเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ หลีกเลี่ยงการนำเด็กไปใกล้บริเวณที่มีการก่อกองไฟเพราะควันไฟจะระคายเคืองเยื่อบุ ทางเดินหายใจของเด็ก ไม่ควรนอนในที่โล่งแจ้ง ลมโกรก โดยไม่มีเครื่องป้องกันให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ไม่ควรอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เพราะจะมีโอกาสได้รับเชื้อโรคได้ง่าย ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใส่ใจในการป้องกันร่างกาย เช่น การล้างมือบ่อยๆ การสวมหน้ากากอนามัย เป็นต้น

          ทั้งนี้ การใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองและคนใกล้ชิดอย่างจริงจังและสม่ำเสมอด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายเป็นประจำนอกจากจะทำให้มีสุขภาพดีและร่างกายแข็งแล้วยังช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคทำให้สามารถรับมือกับโรคภัยต่างๆที่มาพร้อมกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

 

8 พฤศจิกายน 2553

Next post > สธ.เผยน้ำท่วมปีนี้ เด็กต่ำกว่า 15 ปีสังเวยชีวิตจมน้ำ 35 ราย คลอด 4 นโยบายป้องกันในปี’ 54

< Previous post เตะโรคร้าย ให้ห่างไกลจากสุขภาพ

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด