logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

“จุรินทร์” เผยโรงงานผลิตเกลือขนาดเล็ก ร้อยละ 70 ยังไม่ผสมไอโอดีน เร่งส่ง เจ้าหน้าที่เข้าไป

http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=34072

           วันนี้ (9 ตุลาคม 2553) ที่จังหวัดมหาสารคาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ติดตามนโยบายเกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ที่สำคัญของประเทศ และตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตเกลืออะโนทัย ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองจิก อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เป็นโรงงานผลิตเกลือเสริมสารไอโอดีนที่มาตรฐานและทันสมัยที่สุดของจังหวัดมหาสารคาม กำลังการผลิต 100-120 ตันต่อเดือน

           นายจุรินทร์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ลงนาม เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2553 มีผล 1 ตุลาคม 2553 บังคับให้เกลือเพื่อการบริโภคและจำหน่ายในประเทศ ต้องเติมสารไอโอดีนในปริมาณที่กำหนด คือไม่ต่ำกว่า 30 มิลลิกรัมต่อเกลือ 1 กิโลกรัม
ขณะนี้ทั่วประเทศ มีโรงงานผลิตเกลือ 192 แห่ง เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 3 แห่ง ขนาดกลาง 56 แห่ง และขนาดเล็ก 133 แห่ง โดยโรงงานขนาดใหญ่และกลาง มีกระบวนการผลิตเติมไอโอดีนแล้ว ส่วนโรงงานขนาดเล็กเติมแล้ว 38 แห่ง ที่เหลืออีกร้อยละ 70 ต้องเร่งปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแนะนำการดำเนินการ เพราะหลังวันที่ 1 มกราคม 2554 หากตรวจพบว่าเกลือบริโภคที่จำหน่ายไม่เติมไอโอดีน จะเข้าข่ายอาหารปลอมหรือเรียกง่ายๆว่าเกลือปลอม มีโทษจำคุก 6เดือน – 10 ปี ปรับ 5,000 – 100,000 บาท

           นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ระหว่าง 3 เดือนนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะอำนวยความสะดวกในการส่งเกลือเข้าไปตรวจ โดยจะให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อำนวยความสะดวกเปิดทางด่วนตรวจสารไอโอดีนในเกลือ ทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ และให้ อย.อนุมัติให้ใช้ฉลากที่ระบุว่าเป็นเกลือผสมไอโอดีนได้ โดยฉลากเป็นรูปหัวคนสีม่วง มีตัวไอบวก เขียนว่าเพิ่มไอโอดีนเพิ่มไอคิว

           ทั้งนี้ กรมอนามัยจะสนับสนุนค่าสารโปแตสเซี่ยม ไอโอเดต ที่ใช้เติมในเกลือร้อยละ 40 ผู้ประกอบการจ่ายเองร้อยละ 60 ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้นโยบายการเสริมไอโอดีนในเกลือเดินหน้าได้คล่องตัว เพราะไอโอดีนมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างไอคิวของคนไทยทุกเพศทุกวัย มีประโยชน์ในการสร้างเชาว์ปัญญา ให้เกิดขึ้นในคนไทย ขอให้บริโภคเกลือบริโภคน้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหารและผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลืองได้แก่ ซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว ซอสปรุงรส ที่เติมไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน ก็จะได้รับสารไอโอดีนโดยอัตโนมัติ

11 ตุลาคม 2553

Next post > “จุรินทร์” เผยมติบอร์ด มอบหมายให้เลขาธิการ สปสช. ศึกษาผลกระทบการ โอนสิทธิผู้ที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

< Previous post หมอจี้ล้มกม.คุ้มครองผู้เสียหาย ใช้“คนไข้“ต่อรองตรวจ50คน/วัน ผ่าตัดเข้าคิว6เดือน ดันรพ.ศูนย์ดีเดย์1พ.ย.

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด