logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

โอ๊ย! เวียนหัว ตาลาย

http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9530000140022

ผศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน
       ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
       
             
       ภาวะที่น้ำในหูไม่เท่ากัน หรือ โรคมีเนีย เกิดจากการไหลเวียนของน้ำในหูชั้นในผิดปกติ เช่น การดูดซึมของน้ำในหูไม่ดี ทำให้มีน้ำในหูชั้นในมากขึ้น ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทรงตัว และการได้ยิน
      
       ผู้ป่วยที่น้ำในหูไม่เท่ากัน มักมีอาการประสาทหูเสื่อม หูอื้อ ได้ยินไม่ชัด รู้สึกแน่นในหู มีเสียงดังในหู หรืออาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน บางครั้งอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก โดยส่วนใหญ่ อาการมักเป็นๆ หายๆ อาการเวียนศีรษะ เป็นอาการที่รบกวนผู้ป่วยมากที่สุด ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติและต้องนอนพัก
      
       การวินิจฉัยแพทย์จะซักประวัติ ตรวจหู และระบบประสาทการทรงตัว การได้ยิน รวมทั้งการเจาะเลือด และตรวจปัสสาวะ การรักษา แพทย์จะให้ผู้ป่วยจำกัดความเค็ม เพราะความเค็ม หรือเกลือโซเดียม ที่มีปริมาณมากขึ้นในร่างกาย จะทำให้มีน้ำคั่งในหูชั้นในมากขึ้น และหลีกเลี่ยงสารคาเฟอีนในชาและกาแฟ เครื่องดื่มน้ำอัดลม รวมทั้งหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และความเครียด ซึ่งจะทำให้อาการของผู้ป่วยโรคนี้แย่ลง ตลอดจนให้ยาบรรเทาอาการเวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ อาเจียน ยาขยายหลอดเลือด เพื่อช่วยให้การไหลเวียนของน้ำในหูดีขึ้น และหากอาการเวียนศีรษะยังไม่ดีขึ้นจนรบกวนคุณภาพชีวิตมากขึ้น แพทย์จะพิจารณาการผ่าตัดเพื่อระบายน้ำที่คั่งอยู่ในหูชั้นในออก
      
       ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติตัวก็สำคัญไม่น้อย ผู้ป่วยควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มเลือดไปเลี้ยงหูชั้นในมากขึ้น และเมื่อมีอาการเวียนศีรษะขณะเดิน ควรหยุดเดิน แล้วนั่งพัก ถ้าเวียนศีรษะมาก ควรนอนบนพื้นราบ และมองไปยังวัตถุที่อยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว ถ้ารู้สึกง่วงหรือเพลียให้นอนหลับ หลังตื่นนอนอาการจะดีขึ้น
      
       โรคนี้ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่อาการส่วนใหญ่สามารถควบคุมได้ด้วยยาและการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
      
       ***เรียบเรียงบทความโดย นิษฐ์ภัสสร ห่อเนาวรัตน์
      
       ศิริราชจัดบรรยายฟรีเพื่อคุณ
       8 ตุลาคม 2553 เรื่อง “นิ้วล็อก เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ” ณ ห้อง 7008 ตึกสยามินทร์ ชั้น 7
       เวลา 10.00-11.30 น.สอบถาม โทร.0 2419 7419, 0 2419 8990 begin_of_the_skype_highlighting              0 2419 8990      end_of_the_skype_highlighting
       10 ตุลาคม 2553 เรื่อง “เล่นสนุก ปลุกจินตนาการและสร้างสรรค์” และ “อุบัติภัยใกล้ตัวลูก
       และการดูแลเมื่อลูก เจ็บป่วย” ณ ห้องอทิตยาทรกิติคุณ ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 เวลา 13.00 – 16.00 น.
       สอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร.0 2419 5722, 0 2419 7626 begin_of_the_skype_highlighting              0 2419 7626      end_of_the_skype_highlighting และ
www.si.mahidol.ac.th



7 ตุลาคม 2553

Next post > รมช.สธ. ห่วงเด็กติดเกม -อ้วน สายตาเสื่อม ช่วงปิดเทอม แนะพ่อแม่ใช้คาถา 10 ข้อ ดูแลลูก

< Previous post สาธารณสุขน่านเร่งฉีดวัคซีนไข้หวัด2009ให้กลุ่มเสี่ยง!

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด