logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

สธ. พบคนไทยกว่า 7 ล้านคน เป็น “โรคข้อเสื่อม – กระดูกพรุน” เตือนคนอ้วน คนที่ชอบนั่งยองๆ คุกเข่านั่งขัดสมาธิ

http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=33968

         วันนี้ (3 ตุลาคม 2553)  ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลราชวิถี กทม. นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมและสัมมนาวิชาการเรื่อง “ทศวรรษใหม่ในการรักษาโรคกระดูกและข้อ” จัดโดยองค์กรร่วมทศวรรษโรคกระดูกและข้อแห่งประเทศไทย เนื่องในวันโรคข้อสากลประจำปี 2553 เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยเงียบของโรคกระดูกและข้อ และส่งเสริมการป้องกันและการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

          นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้โรคกระดูกพรุนและโรคข้อเสื่อม กำลังเป็นภัยเงียบที่คุกคามคุณภาพชีวิตประชาชน มักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปและผู้สูงอายุ เป็นโรคที่มีแนวโน้มเพิ่มตามจำนวนของผู้สูงอายุที่มีมากขึ้น โรคนี้เมื่อเป็นแล้วจะทุกข์ทรมานมากในการลุกเดินหรือนั่ง เป็นอาการที่ชาวบ้านพูดกันว่า นั่งก็โอย ลุกก็โอย ขณะนี้คาดว่าจะมีคนไทยมีปัญหาโรคข้อเสื่อม กระดูกพรุนประมาณ 7 ล้านคน กลุ่มที่พบมากที่สุดคือ ผู้สูงอายุมีประมาณ 6 ล้านคน และยังมีผู้มีอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้องลาหยุดงาน รวมทั้งโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคเก๊าท์อีกประมาณ 1 ล้านคน แม้ว่าการเจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าวนี้ ไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่ทำให้ผู้ป่วยทนทุกข์ทรมานจากการเจ็บปวด มีผลกระทบต่อครอบครัว โดยเฉพาะอันตรายของข้อเข่าเสื่อม หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นยืน หรือเดินได้ด้วยตนเองได้ “ที่น่าห่วง พบว่าอุปนิสัยของคนไทยโดยทั่วไป ชอบใช้เข่าในท่าพับงอ เช่น นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือการนั่งยองๆ การนั่งในลักษณะนี้ ข้อมูลวิชาการแพทย์พบว่าทำให้เสี่ยงกระดูกอ่อนเสื่อมเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าการขึ้นลงบันไดบ่อยๆ มีความเสี่ยงทำให้ข้อเข่าเสื่อมง่ายขึ้น”

          นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสร้างเสริมสุขภาพให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ โดยสนับสนุนให้มีการออกกำลังกายที่ถูกวิธี เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน เช่น การเดิน การปั่นจักรยาน หรือออกกำลังกายในน้ำ โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก การออกกำลังกายจะให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและชะลอไม่ให้เกิดความเสื่อมของข้อได้ นอกจากนี้ในการรักษายังส่งเสริมการรักษาโรคข้อด้วยการแพทย์ทางเลือกด้วย เพื่อลดการใช้ยาแผนปัจจุบันบางชนิดอาจมีผลข้องเคียงทำให้กระเพราะอาหารเป็นแผล ทะลุได้

         ทางด้านนายแพทย์ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์ ประธานองค์กรร่วมทศวรรษโรคกระดูกและข้อแห่งประเทศไทยกล่าวว่า โรคข้อเสื่อมเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม น้ำหนักตัว การใช้งานข้อที่ไม่ถูกต้อง อาชีพที่มีการใช้งานของข้อมากเช่น ช่างเสริมสวย ครู และเกษตรกรเพราะต้องยืนทำงาน เข่าจะต้องรับน้ำหนักประมาณ 3-4 เท่าของน้ำหนักตัว ในการป้องกันไม่ให้ข้อเสื่อมและเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุด ขอแนะนำให้ประชาชนใช้ส้วมแบบนั่งห้อยขาแทนส้วมนั่งยอง เพราะจะให้ข้อไม่งอพับนานเกินไป และควรออกกำลังบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอย่างสม่ำเสมอทุกวันถึงแม้ว่าจะยังไม่มีอาการปวดเข่าก็ตาม

 

4 ตุลาคม 2553

Next post > “จุรินทร์” บุกตรวจโรงงานผลิตและนำเข้าอาหารเจ ย่านบางขุนเทียน

< Previous post เร่งแก้วิกฤตขาดไอโอดีน สธ.มอบ 1.2 ล้านเม็ดให้กลุ่มเสี่ยง สั่งโรงงานปรุงรสเติมด่วน!!

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด