Department of Immunization, Vaccines and Biologicals, World Health Organization (WHO) ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก Global Alliance for Vaccines and Immunization (GAVI) และ the Centers for Disease Control and Prevention (US CDC) เพื่อริเริ่มโครงการพัฒนาแนวทางในระดับโลกเกี่ยวกับวิธีการประเมินต้นทุนของระบบเฝ้าระวังโรคป้องกันด้วยวัคซีน (Surveillance for vaccine-preventable diseases: VPDs) ซึ่งโครงการนี้ได้จัดทำ “Generic Protocol” ที่สามารถประยุกต์ใช้ตามบริบทของแต่ละประเทศ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากระบบเฝ้าระวังในโรคป้องกันด้วยวัคซีนเป็นที่ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพและบริหารจัดการงบประมาณได้ดี อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงพบการระบาดของโรคป้องกันด้วยวัคซีนในบางพื้นที่ โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การระบาดของโรคหัดในปี พ.ศ. 2561 พบการระบาดจำนวนมากถึง 4,938 ราย และพบการระบาดของโรคหัดอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2562 จำนวน 3,265 ราย การระบาดที่เกิดขึ้นสวนทางกับความครอบคลุมของวัคซีนป้องกันโรคหัด (MCV1) ที่พบว่ามีความครอบคลุมถึงร้อยละ 96 นอกจากนี้ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายในการกำจัดโรคหัดให้หมดไปภายในปี พ.ศ. 2563 แต่กลับพบการระบาดของโรคหัดระหว่างปี พ.ศ. 2561 ถึง 2562 จึงถือเป็นความท้าทายของประเทศไทยที่ต้องทบทวนถึงประสิทธิภาพของระบบเฝ้าระวังโรค ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามการระบาดให้บรรลุเป้าหมายของการกำจัดโรคหัด การปรับปรุงและพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคหัดสามารถดำเนินการผ่านการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการทรัพยากร งบประมาณหรือต้นทุนสำหรับระบบเฝ้าระวังโรคหัดและหัดเยอรมัน ซึ่งสอดคล้องกับโครงการพัฒนาแนวทางฯ ของ WHO ที่กล่าวไว้ข้างต้น การศึกษานี้จึงได้รับการสนับสนุนเพื่อดำเนินการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับต้นทุนของระบบเฝ้าระวังโรคหัดและหัดเยอรมันในระดับประเทศ และรวบรวมข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงแนวทางทั่วโลกเกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์ต้นทุนต่อไปในอนาคต