logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

งานวิจัยเผยลูกจ้างเบิกเงินชดเชยกรณีบาดเจ็บน้อย ส่งผลยอดกองทุนเงินทดแทนฯ ประกันสังคมพุ่ง แตะ 3.3 หมื่นล้าน

น.ส.สุธีนุช ตั้งสถิตย์กุลชัย นักวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ หรือไฮแทป (HITAP) เปิดเผยว่า จากการศึกษาการใช้เงินกองทุนเงินทดแทนกรณีบาดเจ็บ พิการ ทุพพลภาพจากการทำงาน ของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ซึ่งตามกฎหมายให้ใช้เงิน 22% ที่ได้จากดอกเบี้ยเงินฝากของกองทุนมาใช้เพื่อการชดเชยกรณีบาดเจ็บจากการทำงานของผู้ประกันตน แต่ที่ผ่านมาพบว่าใช้ไปเพียง 15% ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดมาก ทำให้ขณะนี้เงินกองทุนทดแทนมียอดเงินสะสมสูงถึง 33,000 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 20 ปี กองทุนฯ จะมียอดสูงถึงแสนล้านบาท

นักวิจัยไฮแทป กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้มีการใช้เงินกองทุนทดแทนน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดมี 3 ปัจจัย ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และตัวระบบ เนื่องจากตามระบบแล้วหากหน่วยงานใดมีการเบิกเงินกองทุนทดแทนสูง ในปีต่อไปนายจ้างจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเข้ากองทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งบางหน่วยงานนายจ้างไม่ต้องการจ่ายเบี้ยเพิ่มจึงกดดันพนักงานไม่ให้ทำเรื่องเบิกเงินจากกองทุนทดแทน เช่น เลิกจ้างโดยอ้างว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพ หรือเหตุผลอื่นๆ เป็นต้น ดังนั้น ลูกจ้างจึงไม่ยอมมาเบิกเงินในกรณีได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน หรือเบิกน้อยมาก เลือกที่จะจ่ายเงินเองมากกว่า

“การขอรับเงินจากกองทุนไม่เพิ่มแถมมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย สวนทางกับรายงานการเข้ารับการรักษาภาวะบาดเจ็บจากการทำงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกองทุนเงินทดแทนมีเงินเข้าประมาณปีละ 3 พันล้านจากนายจ้าง มีการจ่ายให้ลูกจ้างประมาณปีละ 2 พันล้าน ที่เหลือเข้ากองทุนหมด ซึ่งตอนนี้ยอดรวมสูงมาก ตรงนี้ผู้บริหารควรมีความวิตกกังวลมากกว่าจะดีใจที่เห็นกองทุนเงินทดแทนมีเงินสะสมมาก เพราะว่าเงินนี้ไม่ได้ถูกนำไปใช้เรื่องช่วยเหลือผู้ประกันตนอย่างเต็มที่ทั้งๆ ที่เป็นเงินของผู้ประกันตนเอง เรื่องนี้ต้องมีการแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกันตนได้รับความเป็นธรรม ต้องออกข้อบังคับให้มีการตรวจโรคที่สอดคล้องกับความเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ” น.ส.สุธีนุช กล่าว

น.ส.สุธีนุช กล่าวด้วยว่า ขณะที่เงินกองทุนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้ประกันตนกลับได้รับสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพน้อยมาก ทั้งสิทธิในการตรวจรักษา สิทธิในการได้รับยารักษาโรค และสิทธิในการตรวจวินิจฉัยโรค ซึ่งตามกฎหมายระบุว่าให้ผู้ประกันตนสามารถตรวจสุขภาพประจำปีได้ แต่ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าสามารถตรวจอะไรได้บ้าง ทำให้พบการตรวจสุขภาพของผู้ประกันตนเพื่อการหาโรคพื้นฐาน หรือโรคที่มีค่าตรวจราคาถูก ซึ่งไม่ได้สัมพันธ์กับความเสี่ยงจากงานที่ทำ เช่น ผู้ที่ทำงานในหน่วยงานที่มีความเสี่ยงได้รับสารเคมีก่อโรคมะเร็งปอด จะไม่ถูกตรวจสุขภาพเพื่อหาความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปอด แต่ตรวจหาโรคอื่นๆ แทน และพบว่ามีการส่งรายงานผลตรวจสุขภาพให้กับนายจ้างทราบโดยไม่แจ้งให้ลูกจ้างทราบก่อน ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควร และเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกจ้างถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้รับเงินจากกองทุนทดแทนฯ หลังพบความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดโรคจากการทำงานได้

น.ส.สุธีนุช กล่าวอีกด้วยว่า ปัญหาต่างๆ ที่นักวิจัยพบนี้จะมีการนำเสนอให้กับที่ประชุมคณะกรรมการประสานระบบสุขภาพแห่งชาติที่มีดร.อัมมาร สยามวาลา เป็นประธานได้รับทราบเพื่อหาทางแก้ปัญหาให้ผู้ประกันตนได้รับความเป็นธรรมต่อไป ซึ่งเบื้องต้นได้หารือกับดร.อัมมาร ก็เห็นด้วยว่าต้องมีการปฏิรูปกองทุนเงินทดแทนฯ และสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพของผู้ประกันตน ผู้พิการในระบบประกันสังคมอย่างแท้จริง โดยคาดว่าน่าจะมีการนำเข้าไปหารือในที่ประชุมครั้งต่อไป

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/life/20141118/618207/%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87.html

21 พฤศจิกายน 2557

Next post > ประชุมนานาชาติ “PD First Policy” ดันไทยศูนย์กลางการเรียนรู้ CAPD อาเซียน

< Previous post ไฮแทป'ทำวิจัยแนะ'สปส.'เพิ่มสิทธิผู้ประกันตนพิการ

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด