ตัวชี้วัดคุณภาพ กลไกสำคัญที่ต้องพัฒนา
ในการดำเนินงานโครงการ QOF ให้ประสบความสำร็จ จะต้องมีตัวกำหนดมาตรฐานของคุณภาพ ซึ่งกล่าวได้ว่าตัวชี้วัดคุณภาพบริการปฐมภูมิ คือเครื่องมือวัดระดับคุณภาพของบริการปฐมภูมิ ระหว่างหน่วยบริการว่ามีคุณภาพดีมากน้อยต่างกันเท่าใด เพื่อวัดระดับคุณภาพบริการและติดตามประเมินคุณภาพของบริการ อีกทั้งผลที่ได้จากตัวชี้วัดจะเป็นกลไกทางการเงินในการจ่ายค่าตอบแทนจูงใจให้กับบุคลากรในการให้บริการปฐมภูมิที่มีคุณภาพ
ตัวชี้วัดทำหน้าที่อะไร
ส่งสัญญานให้หน่วยให้หน่วยบริการปรับปรุงกิจกรรมบริการ
บ่งชี้ทิศทางนโยบายสุขภาพของประเทศ
โครงการ QOF ใช้ผลการปฏิบัติงานโดยดูจากตัวชี้วัดเป็นตัวกำหนดผล ตอบแทนเป็นตัวเงินที่หน่วยงานจะได้รับ
ตัวชี้วัดคุณภาพบริการปฐมภูมิที่ดีสำหรับประเทศไทยเป็นอย่างไร
ตัวชี้วัดต้องใช้กระบวนการที่น่าเชื่อถือ เช่นการใช้หลักฐานทางวิชาการ การมีส่วนได้ส่วนเสียในทุกฝ่าย และเมื่อผู้ปฏิบัติงานดำเนินการตามตัวชี้วัดฯจะช่วยให้เกิดคุณภาพบริการจริง โดยที่ตัวชี้วัดจะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการการทำงานและผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ประเมินผลได้ภายใน 1 ปี เป็นตัวชี้ทิศทางให้หน่วยบริการด่านหน้าทราบว่าต้องทำอะไรเพื่อใช้ในการจัดสรรทรัพยากรและวางแผนจัดบริการได้ทันท่วงที
ดังนั้น ตัวชี้วัดป็นเหมือนการกำหนดเป้าหมายหารดำเนินงานเพื่อให้บริการมีคุณภาพและประชนชนมีสุขภาพดีขึ้น โดยมีเงิน QOF เป็นแรงจูงใจที่หน่วยบริการจะได้รับ โดยคำนวณจากผลงานของหน่วยบริการซึ่งประเมินจากตัวชี้วัดปรับด้วยค่าความชุกของปัญหาสุขภาพ เพื่อให้ทุกพื้นที่ไม่เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ หากมีความชุกของปัญหาสุขภาพต่างกัน
จากรูปแบบการดำเนินงานโครงการ QOF จะเห็นได้ว่าตัวชี้วัดเป็นตัวกำหนดคุณภาพที่สำคัญมาก ตัวชี้วัด QOF ในประเทศไทย มีหน้าที่หลักสามประการ คือ เป็นเครื่องมือวัดระดับคุณภาพบริการ ส่งสัญญาณให้หน่วยบริการปรับปรุงบริการและกำหนดทิศทางนโยบายของประเทศ หากมองเป็นมิติ ตัวชี้วัดคุณภาพบริการปฐมภูมิมีด้วยกันทั้งหมดสี่ด้าน คือ กำหนดให้หน่วยบริการต้องมีคุณภาพและมีผลงานด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้
- การจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (เช่น การผากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์และร้อยละของการตรวจมะเร็งปากมดลูกในหญิงอายุ 30-60 ปี ภายใน 5 ปี
- การจัดบริการปฐมภูมิ (เช่นสัดส่วนบริการผู้ป่วยนอกในหน่วยบริการปฐมภูมิกับโรงพยาบาล)
- ด้านการพัฒนาองค์กร การเชื่อมบริการ ระบบส่งต่อและการบริหารระบบ (เช่น ร้อยละหน่วยบริการปฐมภูมิที่ผ่านเกณฑ์ขึ้นทะเบียน)
- บริการที่จำเป็นตอบสนองปัญหาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่และบริการเสริมในพื้นที่ (การให้บริการลดปัณหาสุขภาพเฉพาะในพื้นที่นั้นเท่าใด
ผลการศึกษาพบว่า ตัวชี้วัดบางตัวที่กำหนดไว้ในช่วงแรก ขาดหลักฐานวิชาการสนับสนุน และผู้ปฏิบัติงานประสบปัญหาในการ ทำงานเพื่อได้ตามเป้าหมายในแต่ละตัวชี้วัด การศึกษาเรื่องการพัฒนาตัวชี้วัดคุณภาพบริการปฐมภูมิจึงมีข้อเสนอแนะว่า
- ก่อนนำตัวชี้วัดไปใช้ สปสช. และสธ. ควรร่วมกันจัดอบรมชี้แจงนโยบายพร้อมจัดทำคู่มือตัวชี้วัดเพื่อสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
- สนับสนุนให้หน่วยบริการพัฒนาศักยภาพทั้งด้านวิชาการ อุปกรณ์และบุคลากรให้พร้อมกับการให้บริการตามตัวชี้วัดด้วย
- สปสช. ควรติดตามและประเมินรายตัวชี้วัดเป็นระยะเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติตามตัวชี้วัดได้
- ควรมีระบบสะท้อนข้อมูลกลับไปยังหน่วยบริการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาการบริการ
- ควรพัฒนาตัวชี้วัดด้วยกระบวนการที่เป็นระบบ มีหลักฐานวิชาการรองรับและมีการทดสอบก่อนใช้จริง
สามารถติดตาม Blog ต่อไปเรื่อง ประเทศไทยควรดำเนินโครงการ QOF ต่อไปหรือไม่ หรือตามตามโครงการพัฒนาตัวชี้วัดคุณภาพบริการปฐมภูมิ ได้ที่https://www.hitap.net/documents/167057
- โครงการพัฒนาตัวชี้วัดคุณภาพบริการปฐมภูมิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระยะที่ 2