logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.moph.go.th/ops/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=51549

สธ.รณรงค์ “ ลอยกระทง ปลอดเหล้า” ปีนี้ 14 จังหวัด ส่งสายตรวจเหล้าทุกพื้นที่ 23-30 พ.ย.

             วันที่ 22 พฤศจิกายน  2555  ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ชาญวิทย์  ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เภสัชกรสงกรานต์  ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) นายไพศาล  สุรธรรมวิทย์ เลขาธิการนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ นายชลิต  ธนโชควณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองตาก และนายณัฐพล  อุ่นศักดิ์ ประธานชมรมสร้างเสริมสุขภาพและรองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันแถลงข่าวโครงการรณรงค์ประเพณีลอยกระทงปลอดเหล้า ปี 2555 “ลอยกระทงปลอดเหล้า บุญจะส่งให้เราสุขใจ”

             นายแพทย์ชาญวิทย์กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงซึ่งจะมาถึงในอีก 6 วัน ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555    กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ชมรมสร้างเสริมสุขภาพและรองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดรณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า โดยห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในพื้นที่ที่จัดงานลอยกระทง   ซึ่งปีนี้ดำเนินการในพื้นที่ 14 จังหวัดได้แก่ 1.เทศบาลนครเชียงใหม่  2.เทศบาลเมืองตาก  3.เทศบาลเมืองแพร่  4.เทศบาลเมืองหลังสวน จ.ชุมพร  5.เทศบาลนครอุดรธานี  6.เทศบาลเมืองปทุมธานี  7.เทศบาลเมืองชัยนาท  8.เทศบาลตำบลภูเรือ จ.เลย 9.เทศบาลเมืองตรัง 10.เทศบาลเมืองสตูล 11.เทศบาลนครสกลนคร  12.เทศบาลเมืองลำพูน  13.เทศบาลเมืองตราด   และ14.วัดอรุณราชวราราม (กทม.)  เพื่อปรับเปลี่ยนค่านิยมดื่มเหล้าฉลองเทศกาล  และส่งเสริมเทศกาลลอยกระทงของไทยเป็นวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามและทรงคุณค่า ไม่ให้ถูกทำลายให้เสียความเป็นเอกลักษณ์จากปัญหาที่มาจากการดื่มเหล้าเช่น อุบัติเหตุจราจร อาชญากรรม หรือมอมเมาเยาวชนหญิงและล่อลวงไปจนทำให้เสียตัวได้

             นายแพทย์ชาญวิทย์กล่าวต่อว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนลด ละเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และดำเนินการกวดขันเข้มงวดการปฏิบัติตามกฎหมายคือพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เนื่องจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า เหล้าและบุหรี่เป็น 2 ใน 4 ตัวการหลัก ที่ทำให้คนไทยมีอายุเฉลี่ยสั้นลง และเป็นสาเหตุของโรคต่างๆกว่า 60 โรค  ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2554 มีคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 17 ล้านคน   โดยเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามหนังสือสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศและขอความร่วมมือกทม.ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกตรวจสอบ ห้ามขายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกาศห้าม  ทั้งนี้พื้นที่จัดงานลอยกระทงส่วนใหญ่มักจัดในสถานที่สาธารณะ ริมแม่น้ำ ท่าน้ำ  ลำคลอง หรือบึง  ซึ่งอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการส่วนท้องถิ่น เป็นเขตห้ามขาย-ห้ามดื่มเหล้าอยู่แล้ว   จะเริ่มตรวจตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน -30 พฤศจิกายน 2555  หากพบกระทำผิดจะลงโทษตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  สำหรับการจัดงานประเพณีลอยกระทงใน 14 จังหวัดรณรงค์นั้น   กระทรวงสาธารณสุขจะให้เป็นต้นแบบของการเป็นพื้นที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจร้านค้า เฝ้าระวัง บังคับใช้กฎหมาย จับจริง ปรับจริง เพราะเรื่องการรณรงค์ความปลอดภัย เป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกันไม่ใช่ภาระของคนใดคนหนึ่ง นายแพทย์ชาญวิทย์กล่าว

             ทั้งนี้ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา  ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด จำนวน 1,893 คน  เรื่อง “ประเพณีลอยกระทงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 -30 ตุลาคม 2555   พบว่าเทศกาลลอยกระทงเป็นวันที่คนนิยมดื่มเหล้ารองจากเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลขึ้นปีใหม่  โดยประชาชนร้อยละ 92 รับรู้ รับทราบกฎหมายห้ามขาย ห้ามดื่มเหล้าในสถานที่ราชการ สถานศึกษา วัด หรือสวนสาธารณะ แต่ปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 80 ระบุว่ายังพบเห็นการขาย การดื่มในพื้นที่จัดลอยกระทงในปีที่ผ่านมา  สะท้อนชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่  รู้กฎหมาย  แต่ยังฝ่าฝืนกระทำผิด  โดยสิ่งที่ประชาชนไม่อยากให้เกิดขึ้นในวันลอยกระทงมี 4 เรื่อง  อันดับ 1 ได้แก่ การจุดประทัด พลุไฟร้อยละ 29  รองลงมาได้แก่การทะเลาะวิวาทร้อยละ 26   การดื่มสุราร้อยละ 23 และการล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 19

             ทางด้านนายแพทย์สมาน  ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ ย้ำเตือนกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ประกอบการทั้งกทม.ปริมณฑล และต่างจังหวัดทราบและปฏิบัติตามกฎหมาย มาเป็นเวลา 3-4 ปี  ซึ่งได้รับความร่วมมือดีขึ้นเรื่อยๆ  ส่วนที่มีการฝ่าฝืนกว่าร้อยละ 90 จะพบในช่วงเทศกาลสำคัญ ในปี 2555 ได้ตรวจจับ ดำเนินคดีทั่วประเทศรวม 4,293 ราย ประกอบด้วยในเขตกทม. 2,067 ราย ที่เหลืออีก 2,226 รายอยู่ในต่างจังหวัด และได้จัดส่งทีมเฉพาะกิจลงในพื้นที่ ในรายที่มีปัญหาซับซ้อน ยากต่อการดำเนินงานของพื้นที่ และลงโทษรวมอีก 700 ราย  โดยในปีงบประมาณ 2556 นี้จะตรวจเข้มข้นทุกพื้นที่ที่ห้ามขายอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงด้วย

 

 

23 พฤศจิกายน 2555

Next post > เตือนกระแสผิวขาว..ภัยใกล้ตัว หวั่นอันตรายถึงขั้นป่วยโรคไต

< Previous post ชี้ยิ่งลงพุงยิ่งเสี่ยง "โรคเรื้อรัง" รอบเอวเพิ่มทุก 5 ซม. เสี่ยง"เบาหวาน"เพิ่ม 5 เท่า

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด