logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

บอร์ดสปสช.เห็นชอบปรับเกณฑ์การให้ยาต้านไวรัสค่าซีดีโฟ ว์ระดับ( CD4)  น้อยกว่า   350 ครอบคลุมผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคน หลังจากมีมติเมื่อวันที่ 11 เม.ย.54 ปรับเกณฑ์ให้ยาต้านไวรัสเมื่อ CD4 น้อยกว่า 350 ครอบคลุมเฉพาะบางกลุ่ม รมว.สธ.ชี้ การขยายครอบคลุมทุกคน จะช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1,374 คนใน 4 ปี  คาดภายใน 4 ปีใช้งบเพิ่มขึ้น 321 ล้านบาท เผยการเริ่มให้ยาต้านเร็วมีผลต่อเพิ่มการป้องกันติดเชื้อรายใหม่มากขึ้น

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ที่สำนักงานหลักปะกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ  

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่อง การขยายเกณฑ์การเริ่มรับยาต้านไวรัสในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า        

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2554 เห็นชอบให้ขยายเกณฑ์การเริ่มยาต้านไวรัสเอชไอวี เมื่อ CD4 หรือระดับภูมิต้านทานของร่างกายน้อยกว่าหรือเท่ากับ 350  เซลล์/ลบ.มม. เฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยต่อไปนี้ คือ มีภาวะตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี หรือมีอายุมากกว่า 50 ปี และป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูงหรือภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ หรือมีภาวะแทรกซ้อนทางไตที่เกิดจากเชื้อเอชไอวี หรือหญิงหลังคลอดที่มีระดับ CD4 ในขณะตั้งครรภ์ต่ำกว่าหรือเท่ากับ 350 เซลล์/ลบ.มม. และให้มีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมภายหลังประกาศเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งต่อมาคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาและบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วย เอดส์ได้ทำการศึกษาข้อมูลและมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 ให้มีการปรับเกณฑ์การเริ่มรับยาต้านเมื่อ CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 350 เซลล์/ลบ.มม. ในผู้ติดเชื้อทุกคนที่มีความพร้อม ร่วมกับส่งเสริมกระบวนการพัฒนาคุณภาพบริการโดย รณรงค์การตรวจเลือดวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี และนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงเร่งรัดให้ผู้ติดเชื้อได้รับยาต้านให้เร็วที่สุดเมื่อมีข้อบ่งชี้         

นายวิทยา กล่าวต่อว่า   ในที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็ได้มีมติเห็นชอบให้มีการขยายเกณฑ์เริ่มรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวีที่ CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 350 เซลล์/ลบ.มม. แก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคนที่มีความพร้อม โดยเริ่มต้นในปีงบประมาณ 2556 หรือ 1 ต.ค. 2555 เป็นต้นไป คาดว่าจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 321 ล้านบาท ในระยะเวลา 4 ปี คือ 2556-2559 ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1,374 คน   และการเริ่มรักษาที่เร็วขึ้นมีผลต่อการป้องกันการติดเชื้อรายใหม่ได้มากกว่า เดิม         

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า เดิมนั้นประเทศต่างๆ รวมประเทศไทยกำหนดเกณฑ์รับยาต้านไวรัสที่ CD4 น้อยกว่า 200 เซล/ลบ.มม. ต่อมามีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่า ยิ่งให้ยาต้านฯรักษาผู้ติดเชื้อเร็วมากขึ้นเท่าไร อัตราป่วยและเสียชีวิตจะยิ่งลดลงมากขึ้นเท่านั้น พ.ศ. 2553 องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ขยายเกณฑ์การเริ่มยาต้านเอชไอวีในผู้ติดเชื้อที่ CD4 น้อยกว่า 350 เซล/ลบ.มม. ซึ่งประเทศไทยทบทวนเกณฑ์การในการเริ่มยาต้านเอชไอวีที่ CD4 น้อยกว่า 350  และประกาศใช้เมื่อ 1 ต.ค.53 ขณะที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้มีมติปรับเกณฑ์เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2554 เฉพาะบางกลุ่ม ก่อนจะมีมติครอบคลุมผู้ติดเชื้อทุกคนในวันนี้

 

http://goo.gl/jhGgd

 

3 กันยายน 2555

Next post > BMA head Mark Porter's NHS claims rejected

< Previous post ผู้ผลิตยาทาลิโดไมด์ของเยอรมนีเอ่ยขอโทษครั้งแรกในรอบ 50 ปี

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด