logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

 สธ.หารือ 10 ประเทศอาเซียน รวมบังกลาเทศ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ทำแผนรับมืออาหารปลอดภัยในภาวะฉุกเฉิน พร้อมตั้ง “สำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย” ดูแลความปลอดภัยอาหารในภาวะฉุกเฉิน
       
       วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนสปาร์ค กทม. นายแพทย์ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนานักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเกษตร จาก 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน กัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม และไทย นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 ประเทศร่วมประชุมด้วย คือ บังกลาเทศ ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย เพื่อระดมสมองจัดทำแผนอาเซียนในการรับมือความปลอดภัยด้านอาหารของประเทศใน ภาวะฉุกเฉินวิกฤต จัดโดยสำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย ร่วมกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือเอฟเอโอ (FAO) สำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน 2555
       
       นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ภัยภาวะฉุกเฉินวิกฤตเกิดถี่ขึ้นและกระจายทั่วโลก ทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหว น้ำท่วม สารเคมี เชื้อโรคใหม่ จากสัตว์และคน ซึ่งจะมีผลกระทบในเรื่องของความมั่นคงทางอาหาร ก่อให้เกิดโรคหรืออาการเจ็บป่วย รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตจากอาหาร และการหวาดวิตกต่ออาหารที่จะบริโภค และมีผลต่อความมั่นคงของมนุษย์และเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบเสียหายหรือมีราคาแพง ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยเกิดความอดอยาก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทำให้เกิดภาวะการขาดสารอาหาร หรือมีความเสี่ยงสูงในการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค หรือสารเคมีอันตราย ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก และรัฐบาลไทย มีนโยบายพัฒนามาตรฐานอาหารไทยจากครัวไทยสู่ครัวโลก ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทั้งเรื่องของโรคระบาดและภัยใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายรวมทั้งภัยธรรมชาติ จำเป็นจะต้องมีการจัดการอย่างรวดเร็วและเร่งด่วน ซึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้การรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินประสบความสำเร็จ จะต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อาหาร กับภาครัฐบาล ภาคเอกชน รวมทั้งการขยายความร่วมมือจากกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย
       
       นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ในการรับมือดูแลความปลอดภัยด้านอาหารของประเทศไทย กระทรวง สาธารณสุขได้พัฒนาหน่วยงานใหม่เพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยจัดตั้งสำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย เป็นองค์กรหลักสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานดังกล่าวจะเป็นศูนย์ประสานองค์กรต่างๆ ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศในกรณีเกิดภาวะฉุกเฉินด้านความปลอดภัยอาหาร (International Food Safety Authority Network : INFOSAN) ของประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำคู่มือในการพัฒนาแผนรับมือความปลอดภัยอาหารใน ภาวะฉุกเฉิน ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ สอดคล้องกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ และองค์การอนามัยโลก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบเตือนภัย และสืบสวนด้านความปลอดภัยอาหาร ซึ่งจะทำให้ประชาชนไทยทั้งหมดบริโภคอาหารปลอดภัยจากการปนเปื้อนสารเคมี หรือเชื้อโรคต่างๆ คาดว่า น่าจะเสร็จภายใน 1-2 ปีนี้ และจะเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558

 

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000078816

28 มิถุนายน 2555

Next post > “สธ.” เผยวัคซีน 19 ชนิดในไทยปลอดภัยสูง

< Previous post Cells Most Vulnerable to HPV Are Identified

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด