logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

“วิทยา” หนุนวิจัยสมุนไพรหมามุ่ย ผลักดันเป็นยารักษาโรคพาร์กินสันและภาวะมีบุตรยาก ขึ้นทะเบียนยาถูกต้อง

หวังโกอินเตอร์ ต่อยอดทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมยาไทย

http://www.moph.go.th/ops/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=40354

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หนุนกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ศึกษาวิจัยสรรพคุณสมุนไพรหมามุ่ย เป็นยาสมัยใหม่รักษาโรคพาร์กินสันและภาวะมีบุตรยาก ผลักดันสมุนไพรไทยพื้นบ้านขึ้นทะเบียนเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมยาไทย มุ่งสู่เศรษฐกิจโลก

( 24 สิงหาคม 2554) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำกาแฟสมุนไพรหมามุ่ย ประมาณ 200 แก้ว บริการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสมาชิก และเจ้าหน้าที่ประจำรัฐสภา ระหว่างแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เพื่อสนับสนุนการใช้สมุนไพรไทย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง

นายวิทยา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรไทย เป็นทางเลือกให้ประชาชนในการรักษาพยาบาล ขณะนี้มีสมุนไพรถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้วเกือบ 100 รายการ มูลค่าการใช้ในสถานบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขปีละกว่า 300 ล้านบาท และมีนโยบายพัฒนายาสมุนไพรไทยที่มีนับหมื่นชนิด เพื่อนำมาใช้เป็นยารักษาโรคหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บำรุงร่างกาย ซึ่งล่าสุดมีข้อมูลวิจัยจากประเทศอินเดียพบว่าหมามุ่ยซึ่งเป็นพืชเถา พบมากในประเทศไทย มีสารที่สามารถใช้รักษาโรคพาร์กินสัน ที่เป็นโรคที่มีความเสื่อมของระบบประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว ทั่วโลกพบผู้ป่วยประมาณร้อยละ 1 หรือ 60 ล้านคน ส่วนคนไทยพบประมาณ 5-6 ล้านคน พบมากในผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ยังมีผลกระตุ้นการสร้างน้ำอสุจิ ใช้รักษาภาวะมีบุตรยากจากปัญหาความผิดปกติของการผลิตน้ำอสุจิในผู้ชาย ซึ่งขณะนี้มีครอบครัวไทยจำนวนมากที่ประสบปัญหามีบุตรยาก ที่พบได้ประมาณร้อยละ 15 ของครอบครัวไทย และต้องพึ่งการแพทย์สมัยใหม่ที่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ดังนั้นจะให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับในทางวิทยาศาสตร์และทางคลินิก เพื่อขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อาจทำเป็น 2 รูปแบบคือยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มั่นใจว่าพืชหมามุ่ยนี้จะเป็นข่าวดีของคนทั่วโลกที่มีปัญหา 2 เรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดเศรษฐกิจยาไทยเชิงอุตสาหกรรม จะเร่งศึกษาให้เร็วที่สุด

ที่ผ่านมา ตำราโบราณ มีหมอพื้นบ้านไทยใช้เมล็ดหมามุ่ย ใช้รักษาภาวะมีบุตรยากใน 2 ลักษณะคือ นำมาคั่ว บดคล้ายๆชาชง กินวันละ 5 กรัมหรือประมาณ 25 เมล็ด วันละ 1 ครั้งติดต่อกันนาน 3 เดือน และนึ่งเมล็ดหมามุ่ย 5 เมล็ดพร้อมกับข้าวเหนียว กินวันละ 3 ครั้ง เห็นผลภายใน 7 วัน

ทั้งนี้ ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติปีนี้ ซึ่งจัดที่ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-4 กันยายน 2554 ขอเชิญผู้ที่สนใจสมุนไพรไทยเข้าชม เลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ยาไทย รวมทั้งสมุนไพรหมามุ่ยบริการผู้เข้าชมงานด้วย

25 สิงหาคม 2554

Next post > “วิทยา” ให้ทีมเคลื่อนที่เร็ว 1,030 ทีม เฝ้าระวังโรคระบาดในพื้นที่น้ำท่วม ตลอด 24 ชม.

< Previous post สธ.เผยน้ำท่วม รพ.4 แห่ง ใน 3 จังหวัด-ยังไม่พบโรคระบาด

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด