logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

“วิทยา” เตรียมตั้งศูนย์เชี่ยวชาญในภูมิภาค 11 แห่ง ใช้เครื่องมือไฮเทค หมอเฉพาะทางรักษา

http://www.moph.go.th/ops/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=40255

        สาธารณสุข เตรียมพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ 11 แห่ง เป็นศูนย์เชี่ยวชาญระดับสูง 4 สาขา รักษาอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรคหัวใจและหลอดเลือด ทารกแรกเกิด และโรคมะเร็ง ใช้เครื่องมือไฮเทคและแพทย์เฉพาะทางรักษาให้บริการประชาชนที่อยู่ภูมิภาคเป็นเครือข่าย ไฟเขียวผู้ป่วยใกล้ที่ไหนใช้บริการที่นั่น แต่ละแห่งดูแลประชากร 4-6 ล้านคน ไม่ต้องเดินทางเข้ากทม.

        วันนี้ (18 สิงหาคม 2554) ที่ โรงแรมเขาหลัก ซีวิว บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เปิดประชุมวิชาการบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ใน 14 จังหวัดภาคใต้  รับทราบแผนเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อรองรับภัยพิบัติและการพัฒนาระบบสุขภาพในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานีระนอง ชุมพร สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส


นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ภัยพิบัติและภาวะฉุกเฉิน ทั้งภัยจากธรรมชาติภัยที่มนุษย์ก่อขึ้น ภัยจากเทคโนโลยีและโรคระบาด มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก ทั้งในด้านความรุนแรง ความถี่ในการเกิด และขอบเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ประกอบกับสภาพความเจริญของการคมนาคม ประชาชนมีการเดินทางมากขึ้นทั้งประกอบธุรกิจ และการท่องเที่ยว กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเตรียมความพร้อมระบบบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อดูแลรองรับประชาชนที่เจ็บป่วยจากโรคทั่วๆไป ซึ่งมีโรงพยาบาลกระจายทั่วประเทศกว่า 10,000 แห่ง เพื่อให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่สะดวกและมีคุณภาพ เช่น โรคที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงมีแพทย์เฉพาะทางรักษา รวมทั้งการพัฒนาระบบรองรับการเจ็บป่วยฉุกเฉิน สร้างความเชื่อมั่นทางด้านการแพทย์ ลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการที่มีคุณภาพและทั่วถึง


นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในการพัฒนาโรงพยาบาลที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงมีแพทย์เฉพาะทางรักษานั้น จะพัฒนาเพิ่มในส่วนของภูมิภาค ซึ่งประชาชนร้อยละ 80 อยู่อาศัย เพื่อให้เพียงพอ และมีโอกาสเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการลงทุนเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์/ โรงพยาบาลทั่วไป 11 แห่ง ให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญระดับสูง 4 สาขาหลัก  ได้แก่สาขาอุบัติเหตุและฉุกเฉิน สาขาหัวใจและหลอดเลือด สาขาทารกแรกเกิด และสาขาโรคมะเร็ง ให้บริการผู้ป่วยเป็นเครือข่ายไร้รอยต่อ ผู้ป่วยอยู่ใกล้โรงพยาบาลใด ให้เข้ารับบริการที่นั่น ไม่ต้องคำนึงว่าเป็นการข้ามจังหวัด ไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่ละเครือข่ายจะดูแล 4-8 จังหวัด ครอบคลุมประชากร 4-6 ล้านคน ซึ่งจะได้นำแผนการพัฒนาดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป


ส่วนบริการการแพทย์ฉุกเฉิน มีนโยบายพัฒนาครอบคลุมทั้งทางรถ ทางเรือ ทางอากาศ มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ขณะนี้ทั่วประเทศ มีชุดปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน 10,984  ชุดเจ้าหน้าที่ 122,945คน มีรถพยาบาลกู้ชีพ 14,189 คัน เรือ 1,128ลำ เครื่องบินและเฮลิปคอปเตอร์ 78ลำสามารถออกปฎิบัติการได้ในพื้นที่ปกติ พื้นที่สูงภูเขา เกาะแก่งต่างๆ ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมั่นใจ หากเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือประสบอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุทางโทรศัพท์หมายเลข 1669  ฟรีตลอด 24ชั่วโมง ผลการดำเนินการในปีที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ พบว่าประชาชนเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 30


ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต กล่าวว่า โรงพยาบาลที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญ 4 สาขา และเป็น เครือข่ายบริการประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง 11 แห่ง ในภาคกลาง มี 3 เครือข่ายคือสระบุรี ชลบุรี และราชบุรี ภาคใต้ มี 2 เครือข่ายคือสุราษฎร์ธานีและสงขลา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 4 เครือข่ายคืออุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานีและนครราชสีมา  ภาคเหนือ มี 2 เครือข่าย คือลำปางและพิษณุโลก


โดยในภาคใต้ซึ่งลักษณะเป็นพื้นที่ยาว ล้อมรอบด้วยทะเล 2 ด้าน   จัดให้มี 2 เครือข่ายบริการ คือ 1.โรงพยาบาลศูนย์สุราษฎร์ธานี ดูแล 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี  2.โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ ดูแล 7 จังหวัดตอนล่าง คือพัทลุง ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและสงขลา


นอกจากนี้ จะพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ 6 แห่งในภาคใต้ ได้แก่วชิระภูเก็ต มหาราชนครศรีธรรมราช ชุมพร ตรัง ยะลา และนราธิวาสราชนครินทร์  รวมทั้งโรงพยาบาลทั่วไป 12  แห่ง ได้แก่ ระนอง เกาะสมุย พังงา ตะกั่วป่า กระบี่ ทุ่งสง พัทลุง สงขลา สตูลเบตง ปัตตานีและสุไหงโก-ลก  เป็นโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยที่ต้องใช้แพทย์เฉพาะสาขาดูแล  เน้นการดูแลผู้ป่วยในจังหวัด รวมทั้งรองรับการส่งต่อผู้ป่วยรองจากเครือข่ายรองจากศูนย์เชี่ยวชาญที่จังหวัดสุราษฎรธานีและสงขลา  อีกด้วย

19 สิงหาคม 2554

Next post > “วิทยา” ห่วง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก โหมงานหนัก เตรียมวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 1,000 โดส บริการในวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา

< Previous post เผยพบเด็กป่วยโรคเลือด-มะเร็งกว่า 100 รายต่อวัน เร่งโครงการเตียงสายใยแม่ลูก

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด