logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP
sp2 สธ.กว่า 100 รายการส่อวืด เหตุงบไม่พอก่อสร้างเล็งหาสมทบ

Link: http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9530000157248

แหล่งข่าวจากสำนักงานบริหารโครงการไทยเข้มแข็ง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการที่ สธ.ได้รับการอนุมัติวงเงินโครงการไทยเข้มแข็งจากรัฐบาลในส่วนของ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 จำนวนประมาณ 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบสิ่งก่อสร้างประมาณ 8,100 ล้านบาท 736 รายการ และงบฯจัดซื้อครุภัณฑ์ ราว 2,600 ล้านบาท 3,246 รายการ โดยในส่วนของครุภัณฑ์ไม่มีปัญหาสามารถดำเนินการได้ทั้งหมด แต่สำหรับสิ่งก่อสร้างยังมีส่วนที่มีปัญหาไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ราว 173 รายการ คิดเป็นเงินประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยเป็นงบในส่วนของกรมการแพทย์ 1 พันกว่าล้านบาท และสังกัดสำนักงานปลัด สธ.อีกกว่า 1 พันล้านบาท และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขยายเวลาให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา

แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวอีกว่า ในส่วนของสิ่งก่อสร้างที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้นั้น ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2553 พบว่า สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ

  1. กลุ่มที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง อนุมัติงบประมาณแล้ว 132 รายการ จำนวนงบราว 860 ล้านบาท ในจำนวนนี้สามารถดำเนินการทำสัญญาจัดจ้างได้แบบไม่มีปัญหา 20 รายการ แต่อีก 112 รายการ จำเป็นต้องหาเงินงบประมาณมาสมทบเพิ่มเติม เนื่องจากงบที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอที่จะดำเนินการก่อสร้าง เพราะอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยต้นทุนการก่อสร้างสูงโดย 83 รายการ อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหากหาเงินมาสมทบไม่ได้ก็จะไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ จะต้องคืนงบประมาณให้คลังไปราว 500 ล้านบาท
  2. กลุ่มที่ดำเนินการขออนุมัติการจัดสรรงบระมาณไปแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ จำนวน 38 รายการ วงเงิน 134 ล้านบาท ทั้งนี้ ใน 2 กลุ่มนี้ จำเป็นต้องขอให้ ครม.ขยายเวลาการทำสัญญาจัดจ้างไปถึง 30 ธ.ค.นี้หรืออย่างน้อย 45 วันหลังได้รับเงินจากเดิมเพียง 15 วัน
  3. กลุ่มที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับการจัดสรรงบจากสำนักงบประมาณ 3 รายการ ราว 135 ล้านบาท หากดำเนินการไม่ทันภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะต้องคืนโครงการไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ คือ รพ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี รพ.นราธิวาส และวิทยาลัยพยาบาลชลบุรี

“กลุ่มแรกแม้สำนักงบประมาณจะอนุมัติการจัดสรรเงินเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่แน่ว่าจะดำเนินการทำสัญญาจัดจ้างและก่อสร้างได้ เพราะมีอีกกว่า 100 รายการที่ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พิเศษ มีต้นทุนการก่อสร้างสูง จำเป็นต้องหาเงินมาสมทบเพิ่มเพื่อให้สามารถก่อสร้างได้ตามแผน ไม่เช่นนั้นก็ต้องคืนเงินกลับให้คลัง เพราะก่อสร้างไม่ได้ เงินไม่พอ และส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างอาคารพักพยาบาลขนาด 24 ห้องและบ้านพักราชการระดับต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้” แหล่งข่าวกล่าว

9 พฤศจิกายน 2553

Next post > “จุรินทร์” สรุปความเสียหายจากน้ำท่วมของกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 310 ล้านบาท

< Previous post ประชุมผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาโครงร่างงานวิจัย

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด