logo

HITAP ร่วมมือกับกรมการแพทย์ จัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินความคุ้มค่าฯ ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ ในระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย”

สปสช. และ HITAP ขอเชิญท่านมาร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย ด้วยการตอบแบบสอบถามในหัวข้อ “การปฏิบัติงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

จุรินทร์ สั่งทำแผนบูรณาการ แก้ปัญหามาบตาพุด

Link : http://www.thairath.co.th/content/edu/113256

          22 ก.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2/2553 เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหามาบตาพุด ปัญหาสุขภาพผู้ที่ได้รับผลกระทบจากบ่อขยะภาคอุตสาหกรรม จ.สระบุรี ภายหลังการประชุม นายบุญย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ก.ค.53 เห็นชอบให้ 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ไปดำเนินการแก้ไขปัญหามาบตาพุด จ.ระยอง ที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ต.มาบตาพุด ในเขตอ.เมือง ซึ่งประสบปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากมลพิษอุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่ ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมผลิตปุ๋ย และอุตสาหกรรมผลิตเคมีภัณฑ์

         การประชุมครั้งนี้ นายจุรินทร์ได้สั่งการให้ดำเนินการ 3 ประเด็น คือ 1.ให้จัดทำแผนการดำเนินงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนแบบมีส่วนร่วม โดยแต่ละหน่วยงานต้องแบ่งงานกันทำมีเป้าหมาย มีขอบเขตหน้าที่ที่ชัดเจน เมื่อดำเนินการเสร็จให้รายงานต่อที่ประชุมทราบ 2.พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพและดัชนีชี้วัดสุขภาพ เพื่อคัดกรองความเสี่ยงภัย และเพื่อช่วยวินิจฉัยโรคจากสารเคมี สำหรับผู้ประกอบอาชีพและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม และ 3.สนับสนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถดำเนินการเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุก เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และขอให้ทุกกระทรวงรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการทราบในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อไปด้วย

          เลขานุการ รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายจุรินทร์ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัด ประกอบด้วย กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร และกรมการขนส่งทางบก รายงานการครอบครองและการใช้สารเคมีของโรงงานและหน่วยงานต่างๆ ให้สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุขทราบ เพื่อจะได้เตรียมการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีต่อไป หากมีการรั่วไหลหรือแพร่กระจายของสารเคมีในพื้นที่ใดๆ ก็ตามทั่วประเทศ ทั้งนี้ จากสถานการณ์การเกิดอุบัติภัยสารเคมี จังหวัดระยอง ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 1,524 ราย กระทรวงสาธารณสุขได้ออกตรวจสุขภาพทั้งในเขตควบคุมมลพิษและเขตอุตสาหกรรมนอก เขตควบคุมมลพิษ จ.ระยอง จากกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 13,000 ราย ตรวจสุขภาพทั้งสิ้น 12,069 ราย คิดเป็นร้อยละ 93 โดยการตรวจหาการสัมผัสสารอินทรีย์ระเหยง่าย จำนวน 12,069 ราย และตรวจหาการสัมผัสสารโลหะหนัก ได้แก่ ปรอท ตะกั่ว สารหนู จำนวน 500 ราย

23 กันยายน 2553

Next post > นักกฎหมาย พบ พ.ร.บ.คุ้มครองฯ มีจุดอ่อนหลายประการ

< Previous post การประชุมผู้เชี่ยวชาญโครงการพัฒนา และประเมินประสิทธิผลมาตราการสื่อสาร เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย

Related Posts

ข่าวที่เข้าชมมากที่สุด ในรอบ 3 เดือน

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด