ผู้ป่วย 30 บาทใช้เครื่อง hyperbaric oxygen chamber ได้ไหม ทำอะไรได้บ้าง
Hyperbaric Oxygen Chamber ทำได้มากกว่ารักษาแผลเบาหวาน แต่ยังไม่อยู่ในสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาท รักษาทุกโรค) เนื่องจากกำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาวิจัย
Hyperbaric Oxygen Chamber เป็นเรื่องที่หลายคนกำลังสนใจหลังจากที่พบมันอยู่ในกุฏิพระสงฆ์ เครื่องนี้ตามคำชี้แจงของแพทย์ที่เป็นข่าว มีสรรพคุณรักษาโรคแผลเบาหวาน และโรคน้ำหนีบ แต่ไม่มีผลพลอยได้เกี่ยวกับผิวพรรณที่ใสวิ้งอ่อนเยาว์แต่อย่างใด แล้วเครื่องนี้เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง มาทำความรู้จักเครื่องนี้กันก่อนสักนิด
เครื่องนี้มีชื่อย่อว่า HBO ส่วนการรักษาด้วยเครื่องนี้เรียกว่า การรักษาด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy-HBOT) ซึ่งเป็นการรักษาโดยการให้ผู้ป่วยเข้าไปนอนในตู้อบทรงกระบอก ที่ภายในมีออกซิเจน 100% ภายใต้ความดันบรรยากาศ 2-3 เท่าของความดันบรรยากาศปกติ การอยู่ภายใต้ภาวะนี้จะทำให้หลอดเลือดและเนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลดีต่อการทำงานของเซลล์ โดยเฉพาะบริเวณที่ขาดออกซิเจน เช่น บริเวณที่มีแผลซึ่งอาจเกิดจากแรงกระแทก แผลเบาหวาน ออกซิเจนสามารถยับยั้งและต่อต้านการติดเชื้อบางชนิดและมีส่วนสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ HBOT ยังช่วยลดการทำลายเซลล์และเนื้อตายที่เป็นผลจากการขาดเลือดมาเลี้ยง หรือความเจ็บป่วยที่มีผลต่อระบบไหลเวียดเลือด และภาวะที่เกิดฟองอากาศในหลอดเลือดจนเกิดเป็นเหตุให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือดซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงความดันบรรยากาศ เช่น ดำน้ำ อยู่บนที่สูง หรือเดินทางทางอากาศ การให้การรักษาด้วย HBOT จะช่วยลดขนาดของฟองอากาศที่เกิดขึ้นได้ HBOT ยังสามารถรักษาพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ โดยออกซิเจนจะช่วยให้สารพิษที่เกิดขึ้นสลายตัวได้เร็วขึ้น ปัจจุบันมีการนำ HBOT มาใช้เพื่อรักษาความผิดปกติหรือภาวะต่าง ๆ อย่างหลากหลาย อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนเพียงพอถึงประสิทธิผลของการรักษาด้วย HBOT ในโรคต่าง ๆ
เมื่อปี 2558 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สนับสนุนให้มีงานวิจัยโดย โดย HITAP ร่วมกับนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรศึกษาประสิทธิผลของ HBOT ในข้อบ่งใช้อื่น ๆ ที่พบในการศึกษาทั่วโลกจำนวน 18 ข้อบ่งใช้ พบว่า HBOT สามารถช่วยรักษาโรคและภาวะเหล่านี้ได้ดีกว่าการรักษาด้วยวิธีปกติจริง ได้แก่
– ภาวะหัวใจขาดเลือด (Arterial insufficiencies)
– แผลจากการได้รับรังสีรักษาในผู้ป่วยมะเร็งบริเวณศีรษะและคอ (Neck and head carcinoma after radiation therapy)
– โรคที่เกิดจากการลดความกดอากาศ (Decompression sickness)
– ภาวะฟองอากาศอุดตันในกระแสเลือด (Air/ gas embolism)
อย่างไรก็ตามผลจากงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาเป็นชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (ยังเรียกกันตามชื่อเดิมว่า 30 บาทรักษาทุกโรค)
ดังนั้น เรามาลุ้นกันว่า สุดท้ายผู้ใช้สิทธิ 30 บาทจะได้ใช้ HBOT มารักษาโรคเหล่านี้เพิ่มด้วยหรือไม่
ติดตามงานวิจัยเรื่องนี้ได้ที่ https://www.hitap.net/research/165266